วันนี้ (20 ก.พ.64) ภายหลังการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี 9 คน นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และในฐานะหัวหน้าฝ่ายพรรคค้าน กล่าวว่า แม้ว่าการลงคะแนนเสียงไว้วางใจจะท่วมท้น แต่ที่น่าสังเกตคือ คะแนนเสียงของนายกฯนั้นน้อยลง ก็เป็นข้อสังเกตว่าให้ประชาชาชนตัดสินใจ ในการอภิปรายครั้งนี้มั่นใจว่าฝ่ายค้านได้แสดงออกและหาข้อมูลเป็นจำนวนมากและเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องตัดสินใจว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจตลอด 4 วันที่ผ่านมาเป็นอยางไร ตัวเลขบ่งชัดว่าไม่เท่ากันและคะแนนของนายกฯก็ลดลงไป
สิ่งที่ทำทั้งหมดเป็นผลงานของฝ่ายค้านร่วมที่ทำงานอย่างจริงจัง ส่วนผลงานที่ออกมาประชาชนและสื่อมวลชนสามารถตัดสินใจได้ ตัวเลขที่ออกมาก็เห็นชัดว่าเป็นอย่างไร
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ระบุว่า แม้คะแนนเสียงในสภาฯจะแพ้รัฐบาลแต่เชื่อมั่นว่าชนะใจประชาชนที่ติดตามการอภิปรายในช่วง 4 วันที่ผ่านมา และหลังการอภิปรายเสร็จสิ้น พรรคร่วมฝ่ายค้านจะมีงานทำร่วมกันอีกเพราะบางประเด็นมีการทุจริตชัดเจนก็จะต้องดำเนินการต่อไป
รัฐมนตรีบางท่านมีความผิดชัดเจนจะดำเนินการต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกาฯ และ ป.ป.ช.ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
ขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า เหมือนเป็นยุทธการกรีดแผลในสภาฯ ต่อไปจะเป็นการโรยเกลือ ตามต่อในเรื่องที่อภิปรายไม่ไว้วางใจต่อ และตลอด 4 วันที่ผ่านมาเป็นโอกาสที่จะใช้อำนาจประชาธิปไตยที่ประชาชนมอบให้ในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ยืนยันว่าได้ทำอย่างสุดความสามารถ ส่วนผลที่ออกมาพอจะเห็นว่ามีความแตกต่างอย่างไร และสามารถสะท้อนปัญหาประเทศเช่น การศึกษา แรงงาน
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่เป็นวันแรกการทำงานที่จะรักษาผลประโยชน์ให้ประชาชนและทำให้อย่างน้อยน่าจะมีการปรับ ครม.โดยรัฐบาลตั้งใจจะทำงานเต็มที่เพื่อความเป็นอยู่ของประชาชน และเราในฐานะฝ่ายค้านก็จะทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่
ขณะที่ พล.ต.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ระบุว่า ประชาชนไม่ต้องสนใจคะแนนที่ออกมา เพราะก่อนที่จะออกมาก็ทราบอยู่แล้วว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะคะแนนรัฐบาลมากกว่าฝ่ายค้านอยู่แล้ว แต่ประชาชนที่ติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านก็จะเข้าใจและเห็นกับพยานหลักฐานที่ได้แสดง และเห็นว่าหลายครั้งมีความพยายามขัดขวางเพื่อไม่ให้ผู้อภิปรายได้แสดงหลักฐาน
แต่ครั้งนี้นายกต้องคิดหนักว่า ครั้งที่แล้วเป็นนายกฯก็ไม่ได้คะแนนเป็นลำดับที่ 1 ครั้งนี้ก็ไม่ได้คะแนนเป็นลำดับที่ 1 คุณควรจะต้องพิจารณาตนเองแล้ว และให้คนที่ตอบเพียงว่า ที่ผู้อภิปรายอภิปรายไม่เป็นความจริงครับ ได้คะแนนมากกว่า