วันนี้ (9 ก.พ.2564) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) เปิดเผยผลปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง ว่า ตลอดช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงแสน และเจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 5 สกัดจับขบวนการลักลอบพาชาวต่างชาติหลบหนีเข้าประเทศไทย ฝั่งชายแดน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย และ อ.แม่สอด จ.ตาก โดยจับผู้ต้องหาได้จำนวนมาก ซึ่งมีทั้งชาวไทยและต่างชาติ
ส่วนพฤติการณ์ของทุกคดีคล้ายกัน คือจะโดยสารเรือข้ามแม่น้ำโขงมาฝั่งไทย และลอบขึ้นฝั่งตามแนวชายแดนที่ลับตาเจ้าหน้าที่ เดินตามช่องทางธรรมชาติ ก่อนจะไปพบกับขบวนการรับส่งไปยังพื้นที่เป้าหมายอีกทอดหนึ่ง
ผบช.สตม. กล่าวถึงคดีแรกที่ชายแดนเชียงแสน เจ้าหน้าที่พบรถยนต์ต้องสงสัยจึงสกัดตรวจค้น และพบว่าในรถยนต์ต้องสงสัยมีคนไทยเป็นคนขับ และมีชาวจีนนั่งโดยสารมาด้วย 3 คน โดยไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารอื่นที่ใช้แทนหนังสือเดินทางมาแสดงแต่อย่างใด ซึ่งได้ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักร ส่วนคนขับรถยนต์รับสารภาพว่ารับจ้างงานรับส่งชาวต่างชาติมาอีกทอดหนึ่ง ซึ่งปลายทางชาวจีนกลุ่มนี้ต้องการเดินทางไปที่ จ.สระแก้ว
คดีต่อมาเป็นชาวลาวที่ก่อเหตุลักลอบส่งชาวจีนข้ามมาฝั่งประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย โดยลักลอบพาคนจีน 2 คนและมีคนไทย 3 คน นั่งเรือข้ามแม่น้ำโขงเข้าฝั่งไทย ที่บริเวณชายแดนบ้านปาสักหางเวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
ส่วนอีกคดี ผู้ก่อเหตุเป็นคนไทยรวม 4 คน ลักลอบพาชาวจีนหลบหนีเข้าเมืองทั้งหมด 16 คน กลุ่มนี้ลักลอบเข้ามาทางชายแดนแม่สอด จ.ตาก สอบถามเบื้องต้นปลายทางคือไป อ.แม่สาย จ.เชียงราย
จากปฏิบัติการทั้ง 3 คดี รวมแล้วจับผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 32 คน เป็นคนไทย 9 คน ชาวลาว 2 คน และชาวจีน 21 คน ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งหมดในความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ และแจ้งข้อกล่าวหากรณีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมโรค