ชายชาวเมียนมา 3 คนนี้ ปักหลักอยู่ริมลำน้ำรวก พรมแดนคั่นระหว่างชายแดนไทย กับประเทศเมียนมา อ.แม่สาย จ.เชียงราย คนกลุ่มนี้ อ้างกับ THE EXIT ว่าสามารถช่วยเหลือ นำพาคนข้ามไปและข้ามกลับพรมแดนได้ ทีมข่าวจึงสนใจสอบถามเรื่องค่าใช้จ่าย เมื่อสอบถามราคา เราจึงทราบว่าค่านำพาข้ามแดน คิดราคาคนละ 1,000 บาท ใช้วิธีเดินข้ามน้ำในช่วงเวลาพลบค่ำ
ค่าพาข้ามคนละ 1,000 บาท
หากต้องการข้ามพรมแดน ชายกลุ่มนี้ จะเตรียมพื้นที่ด้วยวิธีการนำไม้ไผ่มาคั่นลวดหีบเพลง เพื่อสะดวกต่อการเดินข้าม และยังอ้างต่ออีกว่าพาคนข้ามไปหลบใน จ.ท่าขี้เหล็ก ก่อนเดินทางต่อไปพื้นที่อื่นๆของประเทศเมียนมาได้
ถ้ามีเงินก็เข้าไปได้ทุกพื้นที่
จุดที่ทีมข่าว ยืนอยู่ตรงนี้อยู่ในพื้นที่เกษตรของฝั่งไทย มีป่าไผ่ และมีต้นไม้ขึ้นทึบ ลักษณะของภูมิประ เทศแบบนี้ ช่วยให้หลบเลี่ยงสายตาของเจ้าหน้าที่ได้ ขณะที่บริเวณฝั่งตรงข้ามประเทศเมียนมา อยู่ติดกับกำแพงด้านข้างทางเข้า สถานบันเทิงโรงแรม 1G1 หลังจากเกิดวิกฤต COVID-19 ช่วงเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาทั้ง 2 ฝ่ายปิดชายแดนระหว่างกัน เหลือเพียงสะพานแห่งที่ 2 ที่เปิดให้ขนส่งสินค้า
ทำให้แนวป่าลำน้ำสาย-ลำน้ำรวก เป็นจุดที่พบลักลอบข้ามไปมาของผู้ที่มีผลประโยชน์จากธุรกิจใต้ดินบริเวณชายแดน โดยเฉพาะของสินค้าผิดกฎหมาย เนื่องจากมีท่าน้ำ อยู่หลายแห่ง เช่นท่าว้า ท่ากะหล่ำ ท่ากำนันแดง ท่าเจ้ดาว ท่าเกาะทราย ท่าป่ากล้วย
นอกจากนี้ยังมีท่าน้ำกว่า 10 แห่งที่ถูกเรียกตามภาษาท้องถิ่น เมื่อปิดด่านและไม่มีการขนส่งสินค้า ทำให้เกิดขบวนการลักลอบพาคนข้ามแดนโดยเฉพาะในฤดูแล้งบางจุดน้ำลึกไม่ถึง 1 เมตร
อดีตพนักงานสาวไทย ใน จ.ท่าขี้เหล็ก เปิดเผยว่า ขบวนการนำพาคนข้ามประเทศยังมีอยู่จริง โดยเฉพาะหญิงชาวไทย ที่ต้องการข้ามไปทำงานในสถานบันเทิง 1G1 ส่วนหนึ่งเป็นผู้หญิงที่มีประวัติเฝ้าระวังผิดกฎหมาย หรือบางคนมีสารต้องการ หรือสารเสพติดอยู่ในตัว จึงเลือกช่องทางธรรมชาติ ราคาการข้ามในช่วงสถานการณ์ปกติตกอยู่คนละ 7,000 บาท แต่หลังมีการระบาดของ COVID-19 ทำให้ราคาเพิ่มสูงถึง 15,000 บาท
คนที่กลับมาเป็นคนที่อยู่นานและไม่ยอมกลับมาต่อบัตร แต่บางกลุ่มมีรถพาอ้อมด่าน คือไม่ปลอด เพราะมีสาร ถ้าโดนจะต้องเสียเงินอย่างน้อย 20,000-30,000 บาท
ขณะที่มาตรการตามแนวชายแดนของกองกำลังผาเมืองปัจจุบัน ได้รับการเสริมลวดหีบเพลง ตลอดแนวถนนเลียบชายแดนแม่สายไปจนถึงพื้นที่แม่ฟ้าหลวง และเชียงแสน ระยะทางกว่า 130 กิโลเมตร รวมไปถึงการเสริมกำลังทหารเข้าไปตรวจตรา 7 ชุดจากเดิมที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่
เสริม 46 ชุดตรึงชายแดนป้องกันลักลอบเข้า
THE EXIT สำรวจมาตรการป้องกันตามแนวชายแดน เริ่มจากพื้นที่ลำน้ำรวก ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของอ.แม่สาย ติดจ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา กับเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจกองพันทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง พบแนวชายแดน เสริมมาตรการเข้มข้นเช่น ติดแสงไฟโซลาเซลล์ในพื้นที่อับรวมไปถึงติดกล้องอินฟาเรต 360 องศา เพื่อตรวจจับความเคลื่อนไหวไม่ปกติ
นอกจากการเสริมอุปกรณ์ต่างๆตามแนวชายแดนแล้ว พื้นที่บริเวณนี้ยังได้ เพิ่มกำลังทหารอีกหลายชุด มีภารกิจหลักคือการเดินตรวจตราจุดเสี่ยงและ ซ่อมแซมอุปกรณ์ตามแนวชายแดน บัญชาการกองกำลังผาเมือง ระบุว่า ปัจจุบันพื้นที่แนวชายแดนไทย-เมียนมา ได้เสริมมาตรการป้องกันตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งในห้วงเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมายังไม่พบมีการจับผู้ลักลอบเข้ามาในประเทศไทย
พล.ต.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง กล่าวว่า หลังข่าวการระบาดเพิ่มกำลังตามแนวชายแดน 260 นาย กำลังชายแดนค่อนข้างหนาแน่นเพื่อไม่ให้ลักลอบเข้ามาและยืนยันว่าไม่มีการลักลอบเข้ามา และทางฝั่งเมียนมาเองก็เพิ่มกำลังอีก 2 กองร้อยในการเฝ้าระวังชายแดน
ไม่เพียงแต่มาตรการป้องกันตามแนวชายแดน พื้นที่ตัวอ.แม่สาย ก็มีความเข้มงวด โดยเฉพาะการตรวจสอบแรงงานที่ลักลอบเข้ามาทำงานฝั่งไทย
ว่าที่ร.ต.ณรงค์ โรจนโสทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า หลังข่าวการระบาดเพิ่มกำลังตามแนวชายแดน 260 นาย กำลังชายแดนค่อนข้างหนาแน่นเพื่อไม่ให้ลักลอบเข้ามาและยืนยันว่าไม่มีการลักลอบเข้ามา และทางฝั่งเมียนมาเองก็เพิ่มกำลังอีก 2 กองร้อยในการเฝ้าระวังชายแดน
ตรวจไร่ส้ม ติดพรมแดนยังไม่พบแรงงานผิดกฎหมาย
ไร่ส้มเนื้อที่กว่า 240 ไร่ แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ หมู่บ้านผาหมี ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมาย เนื่องจากมีแรงงานต่างชาติ หลายคนทำงานอยู่ที่นี่ ที่นี่มีแรงงานทั้งหมด 32 คนส่วนใหญ่มีสัญชาติเมียนมา จากการตรวจสอบหนังสือเดินทางเข้าออก ระหว่างประเทศพบทั้งหมดเข้าออกอย่างถูกกฎหมาย ผลการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ในพื้นที่อ.แม่สาย ไม่พบการลักลอบเข้าประเทศแม้แต่รายเดียว
สำหรับคนไทยที่ประสงค์เดินทางกลับจากประเทศเมียนมา สามารถประสานผ่านคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น (TBC) ฝ่ายเมียนมาเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการส่งตัวกลับ ล่าสุดเมื่อวันที่ 11ธันวาคมที่ผ่านมา ส่งตัวคนไทยชุดแรก จำนวน 107 คน เดินทางกลับประเทศแล้ว ทั้งหมดจากถูกตรวจเพื่อค้นหาโรคและถูกกักตัวเป็นเวลา 14 วัน แต่ในส่วนพนักงานของสถานบันเทิง 1G1 จะต้องเข้าตรวจโรคอย่างเข้มงวดและ เข้าข่ายเป็นบุคคลที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง