วันนี้ (15 ธ.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จากเรือนจำบางขวาง จ.นนทบุรี ควบคุมตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ พร้อมพวกรวม 6 คน จำเลยในคดีร่วมกันกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้
และข้อหาที่เกี่ยวข้องอื่นๆ รวม 9 ข้อหา ด้วยกัน เข้ารับฟังคำตัดสินในคดี ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ศาลออกนั่งบัลลังก์พิจารณาคดี ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ศาลพิเคราะห์จากพยานหลักฐาน พิจารณาเป็นรายคดีฟ้องตามข้อหาต่างๆ แล้ว ยกฟ้องข้อหาซ่องโจร
ส่วนข้อหาฟ้องรายบุคคล ลงโทษ พ.ต.ท.บรรยิน จำเลยที่ 1 และลูกน้องคนสนิทจำเลยที่ 3 ซึ่งมีส่วนช่วยกันวางแผนกระทำผิด จนถึงการซ่อนเร้นทำลายศพนั้น
ศาลตัดสินลงโทษตามความผิดที่มีโทษสูงสุดตามฟ้อง คือข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญา ในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ให้ประหารชีวิต แต่จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์ต่อการสืบคดี จึงให้ลดโทษ 1 ใน 3 เหลือโทษจำคุกตลอดชีวิตสถานเดียว
ส่วนจำเลยที่ 2 ร่วมกระทำผิดในบางช่วงบางตอนโทษหนักสุดตามฟ้องคือจำคุกตลอดชีวิต รับสารภาพศาลลดโทษ เป็นจำคุก 33 ปี 4 เดือน
ขณะที่จำเลยที่ 4-5 กระทำผิดตามฟ้องแต่เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษบทหนักสุด คือ เรียกค่าไถ่ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังบุคคลใด เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ลงโทษประหารชีวิต แต่การรับข้อเท็จจริงบางส่วน นับว่าเป็นประโยชน์จึงลดโทษให้คนละ 1 ใน 3 เหลือโทษเป็นจำคุกตลอดชีวิตสถานเดียว
ส่วนจำเลยที่ 6 เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทศาลให้ลงโทษฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเรียกค่าไถ่ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง ลงโทษประหารชีวิต แต่จำเลยให้การรับข้อเท็จจริงบางส่วนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือโทษจำคุกตลอดชีวิต
สำหรับโทษจำคุกตลอดชีวิตในทางกฎหมาย คือ จำคุก 50 ปี ในกรณีของ พ.ต.ท.บรรยิน ศาลระบุ ให้นับโทษ ต่อจากคดีโกงหุ้น ซึ่งถูกลงโทษจำคุกไว้ 8 ปี