หญิงไทยเผยคนไทยทำงาน 1G1 นับร้อย-โต้รายได้จริงไม่ถึงแสน

เปิดใจหญิงไทยทำงาน 1G1 ชี้มีหญิงไทยหมุนเวียนทำงานนับร้อย เหตุมีรายได้เป็นแรงจูงใจ ฝากเตือนหญิงไทยทำงานต่างแดน เข้า-ออก ให้ถูก กม. และกักตัวลดเสี่ยงระบาดโควิด-19

นับแต่มีการระบาดของ COVID-19 บริเวณด่านพรมแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก กระทั่งถูกสั่งปิดและห้ามผ่านตั้งแต่กลางปี ปรากฏว่าช่วงที่ผ่านมายังมีคนไทยลักลอบข้ามไปทำงาน และลักลอบเดินทางกลับเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติ

ไทยพีบีเอสสัมภาษณ์หญิงคนหนึ่งที่เคยทำงานสถานบันเทิงแห่งหนึ่งใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ซึ่งเธอยอมเล่าถึงวิธีการและการทำงานในสถานบันเทิงนั้น แต่เพื่อความปลอดภัยและเธอให้ปกปิดตัวตน โดยระหว่างสัมภาษณ์ทีมข่าวบันทึกเสียงสนทนาเท่านั้น ไม่มีการบันทึกภาพ

เธอบอกว่าสถานบันเทิง 1G1 มี 2 อาคาร อาคารเเรกเรียกว่าตึกเก่า หรือ 1G1 มี 7 ชั้น ใต้ดินเปิดเป็นผับ ส่วนชั้น 1 ถึงชั้น 3 เปิดเป็นคาราโอเกะ และชั้น 4 เปิดบริการนวดแผนไทย

ส่วนอาคารที่ 2 มี 4 ถึง 5 ชั้น เรียกว่า 1G1 8 ชั้นที่ 1 และ 2 มีส่วนที่เปิดให้บริการเครื่องเล่นคาสิโน ส่วนชั้นที่ 3-4 เปิดให้บริการเป็นห้องพักและเป็นโรงแรม โดยหญิงคนนี้ บอกว่า อาคารนี้เป็นที่ที่คนไทยไปทำงาน เพราะถูกชักชวนต่อๆ กั

เพื่อนของเพื่อนไปทำงานอยู่ก่อน เลยมาชวนไปด้วย ส่วนใหญ่จะแนะนำบอกต่อๆกัน ตอนไปทำงานเป็นพีอาร์นั่งดริ๊งกับลูกค้า คนมาเที่ยวส่วนมากเป็นนักท่องเที่ยวจีน

เธอบอกว่าคนไทยทำงานที่ 1G1 มีรายได้เป็นแท็ก 15 วันจริง โดยเธอจะมีรายได้ประมาณ 20,000-30,000 บาท และมีคนไทยทำงานแต่ละรอบประมาณ 200 คน หมุนเวียนกันไป

ดื่มละ 300 บาทเขาได้ 120 บาทเราได้ 180 บาท คนที่ไปทำงานมาจากหลายจังหวัด และไปๆมาๆ แท็กก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ แท็กหนึ่งบางทีมีคนไทยกว่า 100 คนหรือเกือบ 200 คน

อ่านข่าวเพิ่ม "1G1" ท่าขี้เหล็ก ต้นทางหญิงติดโควิด พบคนไทยทำงาน 180 คน

เธอ เล่าเพิ่มเติมว่า จ.ท่าขี้เหล็ก ยังมีสถานบันเทิงลักษณะใหญ่แบบ 1G1 มีอีกประมาณ 4-5 แห่ง และยังฝากถึงคนไทยที่ทำงานสถานบันเทิงให้เข้าประเทศเมียนมาโดยถูกกฎหมาย

อยากให้ระมัดระวังตัว ให้กักตัว ถ้ารู้ว่าตัวเองเสี่ยง และอยากออกข่าวเท็จจริง อย่าเกินความเป็นจริง เช่น ข้ามไปฝั่งนั้นได้เงินเป็นแสนๆ บาท รายได้ไม่มากขนาดนั้น

นายสืบสกุล กิจนุกร ศูนย์วิจัยนวัตกรรมสังคมเชิงพื้นที่ สำนักวิชานวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ที่ติดตามปัญหาแรงงานข้ามชาติ มองปัญหา COVID-19 ที่เกิดขึ้นจากผู้ลักลอบข้ามแดน สะท้อนถึงปัญหาการจัดระเบียบพื้นที่ชายแดนของรัฐ โดยเฉพาะธุรกิจที่ผิดกฎหมาย และการลักลอบเข้าเมือง

ภาครัฐพยายามปรับนโยบาย และปราบปรามจับกุม คาดโทษคนที่ลักลอบข้ามแดนมาก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสข้ามแดนถูกกฎหมาย จะช่วยให้ควบคุมโรคให้อยู่ในศูนย์กักกันของรัฐ ลดโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อภายในประเทศ

สำหรับข้อมูลจากศูนย์ติดตามปัญหา COVID-19 จ.เชียงราย พบผู้ติดเชื้อรวม 26 คน แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อจากการลักลอบข้ามแดนจำนวน 5 คน และติดเชื้อจากเดินทางเข้าประเทศถูกกฎหมาย 19 คน และ 1 คนติดเชื้อในจังหวัด จากการสัมผัสผู้ลักลอบข้ามแดน และที่สำคัญติดมาจากสถานบันเทิงแหล่งเดียวเกือบทั้งหมด คือ 1G1