ภาพพฤติกรรมขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงในโรงเรียนบ้านสบาย ต.รุ่งระวี อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ เมื่อกลางเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา พบชายฉกรรจ์ประมาณ 6-8 คนจะแบ่งหน้าที่การทำงาน ทั้งการคุมต้นทาง ตัดต้นไม้ ขนไม้ และนำรถเข้ามาจอดเพื่อลำเลียงออกจากพื้นที่โดยเร็ว ใช้เวลาลงมือแต่ละครั้งไม่เกิน10-15 นาที
โรงเรียนหลายแห่ง และวัด ในพื้นที่อีสานใต้ คือ เป้าหมายของขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูง เนื่องจากในป่าสงวนแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือ เขตอุทยานแห่งชาติ ตามแนวเทือกเขาพนมดงรัก เจ้าหน้าที่มีมาตรการควบคุมแบบเข้มข้นและจำนวนไม้พะยูงในธรรมชาติเหลืออยู่ไม่มาก ทำให้ขบวนการนี้มีเป้าหมายใหม่ และ ยอมเสี่ยงตัดไม้ในชุมชนเพื่อแลกกับมูลค่าที่สูงหากส่งขายออกนอกประเทศ
นายเดชศักดิ์ บุญเกิ่ง รักษาการ ผอ.โรงเรียนบ้านสบาย ต.รุ่งระวี อ.น้ำเกลี้ย เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุขบวนการลักลอบตัดไม้ใช้เวลาไม่นาน โดยเข้ามาในโรงเรียนช่วงเวลา 02.14 น. และกลับออกไปช่วง 02.30 น. ขณะนั้น ชาวบ้านบริเวณหน้าโรงเรียนได้ยินเสียงไม้ล้มจึงโทรศัพท์ถึงผู้ใหญ่บ้าน แต่เจ้าหน้าที่ก็มาไม่ทัน เนื่องจากผู้ก่อเหตุหลบหนีออกไปแล้ว
ขบวนการตัดไม้พะยูงโรงเรียนบ้านสบายเป็นกลุ่มลักลอบตัดไม้จากหมู่บ้านแห่งหนึ่งในอำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี ในรอบประมาณ 1 เดือน กลุ่มนี้เข้าไปตัดไม้พะยูงในโรงเรียนถึง 6 แห่ง โดยเฉพาะโรงเรียนบ้านกระบี่ ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ถูกลักลอบตัดถึง 2 คืนซ้อนโดยไม่เกรงกลัวกฏหมาย
นายอรัญ วรรณพฤษก์ ครู ร.ร.บ้านกระบี่ ระบุว่า ไม่คิดว่าผู้ก่อเหตุจะมาในเวลาใกล้กันขนาดนี้ หลังตัดกุญแจเข้ามาในช่วงกลางคืน ช่วงเช้าโรงเรียนได้นำกุญแจมาใส่ใหม่ แต่ค่ำวันเดียวกันผู้ก่อเหตุก็ยังลักลอบเข้ามาอีก
ครูในโรงเรียนก็รู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะถ้ากล้าเข้ามาขนาดนี้ แสดงว่าต้องพกอาวุธมาด้วย
ลักลอบตัดพะยูง ต้นไม้ล้มทับกุฏิพระเสียหาย
ไม่ไกลกัน THE EXIT เดินทางไปยังวัดพระโต บ้านติ๋ว ต.กุดน้ำใส อ.ค้อวัง จ.ยโสธร หลังพบว่า ต้นไม้พะยูงขนาดใหญ่ถูกลักลอบตัด และนำออกไปได้เพียงบางส่วน แต่ต้นพะยูงได้ล้มทับกุฎีพระสงฆ์เสียหายทั้งหลังจนต้องบูรณะใหม่ นายไพศาล มีศิลป์ ไวยาวัจกรวัดพระโต ตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีเจ้าหน้าที่ของรัฐบางส่วนเกี่ยวข้องเพราะหลังเกิดเหตุได้เข้ามาขอภาพกล้องวงจรปิดและทำลายหลักฐาน พร้อมแนะนำให้ขายไม้พะยูงที่เหลือให้กับพ่อค้า
มีคนมาบอกให้ชาวบ้านทำประชาคมขายไม้ ชาวบ้านไม่รู้กฎหมาย เลยไปถามฝ่ายปกครอง พบว่าชาวบ้านทำไม่ได้ เพราะต้นไม้อยู่ในที่วัด เจ้าอาวาสต้องเป็นคนตัดสินว่าจะขายหรือไม่ขาย
ขบวนการเหิมตัดไม้ใน ร.ร.-วัด เงินคุ้มงานเสี่ยง
สอดคล้องกับข้อมูลนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ยืนยันกับ THE EXIT มีอดีตเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือ ตำรวจบางคน ทำหน้าที่ประสานงาน และ จ่ายเงินเพื่อเคลียร์เส้นทางการลักลอบตัดไม้จนส่งออกนอกประเทศ มีหลักฐานเป็นเส้นทางการเงินระหว่างผู้รับซื้อกับกลุ่มลักลอบตัดไม้
วันนี้ชัดเจนว่าไม้เป็นที่ต้องการของตลาดรมากขึ้น เทคนิคการตัดไม้เขาไม่ได้กลัวใครอยู่แล้ว ตัดใกล้ชุมนุม สถานีตำรวจ เขาไม่ได้กลัว เพราะเงินที่เขาจ้างมูลค่าสูง คุ้มกว่าความเสี่ยง แล้วโทษเขาก็มีแต่รอลงอาญา
ขณะที่เดียวกันจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงในภาคอีสานเป็นเครือข่ายใหญ่มีกลุ่มบุคคลเกี่ยวข้องมากกว่า 100 คนครอบคลุมพื้นที่ทุกจังหวัด โดยมีนายทุนใหญ่อยู่ในประเทศกัมพูชา และ ประเทศลาว ซึ่งจะรับออเดอร์มาจากประเทศจีน และหลังสถานการณ์ COVID-19 เริ่มคลี่คลายความต้องการไม้พะยูงก็กลับมาเป็นที่ต้องการอีกครั้ง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
THE EXIT : ค้าไม้พะยูงข้ามชาติ ตอน 2