นัดแรก "วราวุธ" วางแนวสอบสวนปมสวนสัตว์

"วราวุธ" มอบแนวทางสอบปมปัญหาสวนสัตว์ พร้อมกำชับนายกรัฐมนตรี สั่งติดตามหาข้อสรุป ลั่นไม่มีมวยล้ม ไม่กังวลข่าวผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง เปิดไฟเขียวตรวจได้ทุกแห่งหากมีการสอบพาดพิง ต้องการให้คลายข้อสงสัยของสังคมทุกประเด็น

วันนี้ (12 ต.ค.2563) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) มอบนโยบายกับคณะกรรมการสอบสวนกรณีลูกเก้งเผือกพระราชทานหายไปจากสวนสัตว์สงขลา และการลักลอบค้าสัตว์ป่าในสวนสัตว์ ที่มีนายเฉลิมชัย ปาปะทา ผู้ตรวจราชการทส.เป็นประธาน โดยเป็นการประชุมนัดแรกของคณะกรรมการชุดพิเศษ 9 คนที่เพิ่งแต่งตั้งขึ้น

ก่อนการประชุม นายวราวุธ เข้ามาเพื่อมอบแนวทางกับคณะกรรมการประมาณ 10 นาที โดยระบุถึงการสอบสวนต้องไม่ให้เกิดมวยล้ม ต้องตอบคำถามสังคมได้ชัดเจนว่า เกิดอะไร ที่ไหน อย่างไร จะตั้งใจ หรือ เป็นอุบัติเหตุ ก็ต้องมีคำตอบให้สังคม และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับมาให้คณะกรามการทำงานเต็มที่

หากการสอบพัวพันถึงสวนสัตว์อื่น ที่ไม่ใช่สวนสัตว์สงขลา คณะกรรมการสามารถขยายผลได้นอกจากนี้กระแสข่าวเรื่องผู้มีอิทธิพล อยู่เบื้องหลังขบวนการค้าสัตว์ป่า ถ้าเกินกำลังของกรรมการสอบสวนให้ประสานมาที่ผม แต่ขอให้กรรมการทำเต็มที่ ให้ทุกประเด็นที่สังคมสงสัยคลายความกังวลใจและเกิดความชัดเจน

ชี้เก้งเผือกหาย-เข้าข่ายละเว้นปฎิบัติหน้าที่

นายวราวุธ กล่าวว่า กรณีเก้งเผือกที่หายไป ถ้าหากมีการแจ้งความมีการตามคดีหรือไม่ เพราะอยู่ในความสนใจของสังคม ไม่สามารถปล่อยให้ตำรวจดำเนินการสอบสวนไปโดยไม่ตามคดี ถ้าถามส่วนตัวอาจมองว่าผู้บริหารหรือคนในสวนสัตว์ไม่ใส่ใจหรือไม่ จะเข้าข่ายละเว้นการปฎิบัติหน้าที่หรือไม่ ใครที่อยู่ในสวนสัตว์ต้องดูแลคุณภาพชีวิต ถ้าสัตว์หายไปแล้วปล่อยให้ตำรวจดำเนินการอย่างเดียว ถือว่าไม่ใส่ใจ

เคสผอ.องค์การสวนสัตว์ ถือว่าช็อกมาก กรณีอื่นถ้าคณะกรรมการฯ มีข้อมูลแล้วต้องการให้ตรวจสอบพร้อมเต็มที่ เพราะสิ่งที่รับไม่ได้คือสวนสัตว์เป็นแหล่งให้ความสุขกับครอบครัวจึงไม่ควรอยู่บนความลำบาก และการทุจริตต้องสอบไปให้สุด ยิ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือที่บึงฉวาก ต้องเอาให้หนัก

รมว.ทส.กล่าวอีกว่า การที่มีคนไปหาประโยชน์จากสัตว์ มีการค้าสัตว์ป่า ถ้าเหยียบเท้าใครเจอตอตรงไหนต้องสาวให้ถึง และต้องไม่มีมวยล้มต้มคนดูเด็ดขาด และย้ำว่าในฐานะประชาชนคนหนึ่ง และในฐานะที่เป็นรมว.ทส.ต้องควบคุม และอยากรู้ความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นในสวนสัตว์ ไม่อยากให้มองว่าคณะกรรมการเข้าไปหาเรื่อง หรือฟอกใครแต่ต้องการให้ทำให้ใครผิดว่าไปตามผิด ใครถูกว่าไปตามข้อมูล เพื่อไม่ให้สังคมมีความสงสัย

สำหรับการประชุมนัดแรก ได้มาครบทั้ง 9 คนนำโดยนายเฉลิมชัย ปาปะทา ผู้ตรวจราชการ ทส.ประธาน พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รศ.สพ.ญ.ดร.นันทริกา ชันซื่อ ศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายสมปอง ทองสีเข้ม ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก ฝ่ายกฎหมาย ตัวแทนบอร์ดสวนสัตว์ พล.อ.เดชา ปุญญบาล เลขานุการคณะกรรมการปรองดองปฏิรูป (คสช.)นายวิสาล ทฤษฎิคุณ ที่ปรึกษากฎหมายสำนักงานปลัดกระทรวง ทส. เป็นเลขานุการ นายถิรเดช ปาละสุวรรณ นักวิชาการป่าไม้ ชำนาญการพิเศษ กรมอุทยานฯ เป็นผู้ช่วยเลขานุการ และน.ส.กัญชพร บรรณรัตน์ นิติกรปฏิบัติการสำนักงานปลัดกระทรวง ทส. เป็นผู้ช่วยเลขานุการ