วันนี้ (29 ก.ย.2563) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า จากกรณีที่คุณพ่อรายหนึ่งออกมาเตือน เนื่องจากเลี้ยงลูกด้วยโทรศัพท์มือถือ และปล่อยให้เล่นตลอดเวลา ติดโทรศัพท์ จึงทำให้ลูกเกิดอาการปากเบี้ยว โดยอาการปากเบี้ยวหรือหน้าเบี้ยวครึ่งซีก ( Bell’s palsy ) คือภาวะที่กล้ามเนื้อใบหน้าข้างใดข้างหนึ่งอ่อนแรงหรือเกิดอัมพาตชั่วขณะ
สาเหตุมาจากการอักเสบของเส้นประสาทบนใบหน้า ส่งผลให้หน้าเบี้ยวครึ่งซีก เป็นผลมาจากเส้นประ สาทใบหน้าหรือเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ที่อยู่ตรงใบหน้าแต่ละข้าง ทำหน้าที่รองรับการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้า เช่น ยิ้ม ทำหน้าบึ้ง หรือหลับตา รวมทั้งรับรสจากลิ่น และส่งยังสมองเกิดการอักเสบส่งผลต่อการรับรส การผลิตน้ำตา ต่อมน้ำลาย ปากเบี้ยว ถือเป็นปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นทันที และมักจะเกิดขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง

หมอเตือนยังไม่มีวิธีป้องกัน
นพ.ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผอ.สถาบันประสาทวิทยา กล่าวว่า ผู้ป่วยจะมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง บริเวณใบหน้าครึ่งซีก ทำให้หน้าเบี้ยว หลับตาไม่สนิท ปากเบี้ยว มีน้ำไหลที่มุมปาก และอาจพูดไม่ชัด การรับรสที่ลิ้นผิดปกติ ปวดศีรษะ หูได้ยินเสียงดังขึ้นข้างเดียว ดื่มน้ำลำบาก
ทั้งนี้ยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดการอักเสบของเส้นประสาท ดังกล่าวแต่อาจมีแนวโน้มมาจากการติดเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดภาวะปากเบี้ยว ได้แก่ โรคงูสวัส เป็นต้น ดังนั้นการพักผ่อนน้อยหรือการเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานๆ จึงไม่ใช่สาเหตุโดยตรงที่ทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อ ใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก
เด็กที่อยู่ในวัยเจริญเติบโตควรได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ผู้ป่วยควรพบแพทย์เมื่อมีอาการเพื่อรีบรักษา การรักษา อาการปากเบี้ยว ประกอบด้วยการรักษาด้วยยา ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วกว่าเดิม การรักษาทางกายภาพบำบัด เช่น กระตุ้นเส้นประสาทด้วยกระแสไฟฟ้า หรือนวดใบหน้า ช่วยลดภาวะกล้ามเนื้อตึงเกร็ง และการผ่าตัด
อาการปากเบี้ยวหรือหน้าเบี้ยวครึ่งซีก ยังไม่มีวิธีการป้องกันที่ชัดเจน สาเหตุเกิดจากการอักเสบของเส้นประสาทใบหน้าที่มักจะเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และรุนแรง ผู้ป่วย ส่วนใหญ่มักจะหายอย่างเร็วสุดภายในเป็นสัปดาห์
แท็กที่เกี่ยวข้อง: