สวนแมคคาเดเมียหลายพันไร่ กว่า 1 แสนต้น ในภูเรือวโนทยานของบริษัท ซี.พี.เค อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย คือหนึ่งในข้อสังเกตจาก ประชาชนในจังหวัดเลยและฝ่ายความมั่นคง โดย 20 ปีที่ผ่านมา บริษัทเอกชนได้เข้ามาทำประโยชน์ แม้ถูกเพิกถอนสิทธิ์ น.ส.3 /147 แปลงระหว่างปี 2546-2547
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : พิรุธขอสัมปทานป่า 6 พันไร่ จ.เลย ตอน 1
ปัจจุบันยังคงพบร่องรอยการเข้าไปดูแลและเก็บผลประโยชน์ คาดว่ามีมูลค่ามากกว่าปีละ 200 ล้านบาท THE EXIT ตรวจสอบการเข้าไปทำประโยชน์ในป่าภูหมี-ป่าภูขี้นาค นายประพัทธ์ชัย ไชยนอก อดีตหัวหน้าคนงาน อ.ด่านซ้าย จ.เลย ให้ข้อมูลว่าเมื่อเกือบ 30 ปีก่อน บริษัทเอกชนกว้านซื้อที่ดินทุกแปลงที่อยู่รอบภูเขาจากชาวบ้าน ทั้ง ๆ ที่เป็นที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์ ให้คนงานปรับสภาพป่า มีเป้าหมายอย่างน้อยปีละ 500 ไร่ เพื่อทำไร่องุ่นและผลิตไวน์
ตรงสวนองุ่นประมาณ 2,000 ไร่ได้ ไม้เต็งรังตรงนั้นเขาก็นำไปสร้างบ้านพักให้คนงาน
ภูเรือวโนทยานถูกเพิกถอนสิทธิ์ น.ส.3 กว่า 6,000 ไร่ เนื่องจากนำ ส.ค.1 ที่ดินของผู้อื่นมาเป็นหลักฐานออกหนังสือเพื่อรับรองการทำประโยชน์ หรือที่เรียกกันในวงการที่ดินว่า "ส.ค.บิน" โดยเฉพาะนายเปรมชัย กรรณสูต หนึ่งในกรรมการบริษัท มีชื่อเป็นครอบครองที่ดิน 5 แปลงกว่า 100 ไร่ ได้มาจากการซื้อและรับจำนองจากชาวบ้าน
การขอยื่นขอสัมปทานป่าภูหมี-ป่าภูขี้นาค พื้นที่ 6,543 ไร่ของบริษัท ซี.พี.เค อีกครั้ง เมื่อวัน 6 สิงหาคม ทั้งที่อยู่ในขั้นตอนการดำเนินคดีจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ
พ.อ.สมหมาย บุษบา รอง ผอ.รมน.จังหวัดเลย เชื่อว่าเป็นเพียงความพยายาม ต้องการครอบครองผืนป่าทั้งหมดกว่า 20,000 ไร
ทุกวันนี้ท่านยังไม่ตื่นอีกเหรอ ต้องตื่นแล้วเพราะวันนี้ ที่ดิน 20,000 ไร่นี้ มีพืชที่สามารถเก็บประโยชน์ได้อยู่แสนต้น มันควรทำเป็นสหกรณ์ให้ประชาชนที่ยากไร้เข้ามาเก็บบ้าง คืนให้สาธารณะได้แล้ว
บริษัท ซี.พี.เค อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด เคยอ้างเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 และโฉนดที่ดิน ครอบครองที่ดินทั้งรังเย็นรีสอร์ท ,ชาโตว์เดอเลย และภูเรือวโนทยาน กว่า 6,000 ไร่ จนกระทั่งปี 2546-2547 และ ปี2561 กรมป่าไม้ยกเลิกกรรมสิทธิ์ทั้งหมด แต่จนถึงปัจจุบันกลับยังไม่ดำเนินการยึดคืน เพราะยังพบการเข้าทำประโยชน์และจ้างคนงานเพื่อดูแลทรัพย์สิน