กรณีที่สำนักงานที่ดินจังหวัดเลย สาขา อ.ด่านซ้าย ออกประกาศเรื่องการขอสัมปทานของบริษัทซี พี เค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รวมพื้นที่ 6,543 ไร่ ทำให้กรมป่าไม่ และเครือข่ายภาคประชาชนจ.เลย เตรียมยื่นหนังสือคัดค้านการขอใช้ประโยชน์ เนื่องจากพบว่าเป็นที่ดินแปลงเดียวกับที่กรมป่าไม้เคยตรวจยึดข้อหาบุกรุกป่าตั้งแต่ปี 2561
วันนี้ (26 ส.ค.2563) ไทยพีบีเอสออนไลน์ สัมภาษณ์นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า จากการตรวจสอบกับนายฉลองชัย ศาลางาม หัวหน้าหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ภูเรือ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 6 (อุดรธานี) ยืนยันว่าที่ดินแปลงดังกล่าวเนื้อที่ 6,543 ไร่ของบริษัทซี พี เค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ที่ยื่นขอใช้ประโยชน์กับสำนักงานที่ดิน สาขาด่านซ้าย จ.เลย ถูกตรวจยึดและดำเนินคดีอาญาไว้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.2561โดยครอบคลุมเขตบ้านร่องจิก หมู่ที่ 2,บ้านขามป้อม หมู่ที่ 9 ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย และบ้านหนองสนุ่น หมู่ที่ 7 ต.โคกงาม บ้านหัวฝาย หมู่ที่ 2 ต.โพนสูง อ.ด่านซ้าย จ.เลย เนื่องจากบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าภูหมี ภูขี้นาค
นายอรรถพล กล่าวอีกว่า ขณะนี้สั่งการให้พื้นที่ทำหนังสือยื่นคัดค้านการใช้ประโยชน์กับกรมที่ดินแล้ว เนื่องจากตามประกาศดังกล่าวจะมีเวลา 30 วันที่จะสิ้นสุด 6 ก.ย.นี้ให้คัดค้านได้ พร้อมกับหารือนอกรอบกับรองอธิบดีกรมที่ดินว่าที่ดินแปลงนี้ติดในคดีบุกรุก แต่ก็รู้สึกงงว่าทำไมถึงยังให้ผู้แทนมายื่นขอใช้ประโยชน์
ที่ดินกว่า 6,500 ไร่บุกรุกป่าาภูหมี ภูขี้นาค และถูกดำเนินคดีไว้ และบางแปลงมีการเพิกถอนโฉนด เพราะออกโดยมิชอบด้วยซ้ำ แต่กลับนำเอาพื้นที่บุกรุกป่ามายื่นขอประโยชน์ทำการเกษตร
อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ดินแปลงดังกล่าว ก็ยังอยู่ในขั้นตอนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และกรมป่าไม้ ร่วมทำคดี และอยู่ระหว่างประเมินความเสียหายเนื่องจากพบว่าเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำชั้น 1 ซึ่งขั้นตอนการตรวจสอบและดำเนินคดียังไม่แล้วเสร็จ การที่จะมาขอใช้ประโยชน์โดยอ้างมาตรา 12 ประมวลกฎหมายที่ดิน จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น เรื่องดังกล่าวกรมป่าไม้ ไม่ยอมแน่นอน
อ่านข่าวเพิ่ม โฉนดปลอม ยึดรังเย็นรีสอร์ต 4 ก.ย.นี้
ชาวบ้านกังขาที่ดินบุกรุกป่าแต่ขอใช้ประโยชน์
ขณะเดียวกันเมื่อเวลา 11.00 น.นายยลชาญ กมลรัตน์ เครือข่ายภาคประชาชนจ.เลย ได้เข้าพบนายอธิรัฐ บรรดาศักดิ์ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเลย สาขาด่านซ้าย เพื่อยื่นคัดค้านการสัมปทานป่าพื้นที่ภูหมี ภูขี้นาคของบริษัทซี พี เค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เพื่อขอให้คงสภาพป่า 6,543 ไร่ไว้เป็นสมบัติของชาติและของประชาชนคนไทยทุกคน
จากนั้นในช่วงบ่ายจะลงพื้นที่ร่วมกับกรมป่าไม้ และฝ่ายความมั่นคง เดินทางไปบริเวณรังเย็นรีสอร์ต เพื่อ ติดตามสภาพพื้นที่ เนื่องจากถูกตรวจยึดไว้ 2 ปีก่อนดูว่ามีการแอบมาใช้ประโยชน์ในพื้นที่หรือไม่ นอกจากนี้ยังอยากให้กรมป่าไม้ ตรวจสอบการบุกรุกครอบครองและขอใช้ประโยชน์ทีดินในจ.เลย ทั้งหมดที่คาดว่าจะมีลักษณะที่แอบไปขอใช้ที่ดินกับกรมที่ดิน รวมพื้นที่กว่า 10,000 ไร่
สังคมไม่ยอมแน่นอนที่นายทุนรายใหญ่ที่ทำผิดซ้ำๆ บุกรุกที่ดินแปลงใหญ่กว่า 6,000 ไร่ถูกยึด ถูกเพิกถอน ยึดแล้วยึดอีกแต่ก็ยังกล้าเอามายื่นขอใช้ประโยชน์ แม้ว่าจะทำการเกษตร แต่พื้นที่นี้ไม่เหมาะสมเพราะเป็นป่าต้นน้ำ 1-2 ทำแบบนี้ไม่ได้อยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ที่ดินจังหวัดเลย ตรวจสอบที่มาการได้เอกสารสิทธิ์ ของบริษัท ซี.พี.เค.อินเตอร์เนชั่นแนล เคยครอบครองที่ดินถึง 6,000 ไร่ รวม 147 แปลงในแถบนี้ ก่อนถูกเพิกถอนสิทธิ์ ในปี 2546 เนื่องจากออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ นำหลักฐาน ส.ค.1 ผิดตำแหน่งมาออก น.ส.3 ก บนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูหมี ป่าภูขี้นาค และป่าภูเปือย ไปแล้ว 14 ไร่ และยังอยู่ระหว่างดำเนินการเพิกถอนอีก 16 แปลง หรืออีกหลายร้อยไร่ ที่เป็นอำนาจของอธิบดีกรมที่ดินว่าจะเพิกถอนหรือไม่ ซึ่งที่ดินทุกแปลง หลังจากที่กรมที่ดินดำเนินการเพิกถอนแล้ว ขั้นต่อไปจะเป็นหน้าที่ของกรมป่าไม้ที่จะต้องดำเนินคดีกับผู้บุกรุกต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชัดเจน ! กรมป่าไม้สรุป "กรรณสูต" ฮุบป่าภูเรือกว่า 5,000 ไร่
ยึดเพิ่ม 19 ไร่ "รังเย็นรีสอร์ต"