วันนี้ (23 ส.ค.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากเหตุกราดยิงที่ จ.นครราชศรีมา เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 30 คน และบาดเจ็บ 58 คน เหตุการณ์ครั้งนั้นสร้างความตระหนกให้กับคนทั้งประเทศ จนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและผู้บัญชาการทหารบก ต้องลงไปบัญชาการแก้ไขสถานการณ์ด้วยตัวเอง รวมถึงนายกรัฐมนตรีที่ลงพื้นที่ไปติดตามเรื่องนี้ด้วย
ความคืบหน้าของคดี มีรายงานเมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา ว่า สำนักงานอัยการภาค 3 จ.นครราชสีมา ได้รับคดีชันสูตรพลิกศพ กรณีจ่าสิบเอกกราดยิงจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ขณะที่การตรวจสอบกรณีที่จ่าสิบเอก (ผู้ต้องหา) ก่อเหตุเพราะถูกผู้บังคับบัญชาโกงค่าส่วนต่างบ้านสวัสดิการทหารบกนั้น ผลการตรวจสอบพบมีนายทหารระดับผู้บังคับบัญชาเกี่ยวข้อง 3 นาย ซึ่งกองทัพบกส่งเรื่องต่อ ป.ป.ช. ดำเนินการแล้ว
ทั้งนี้ในเหตุการณ์ดังกล่าวยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่ยังรักษาตัวต่อเนื่อง คือ นายอุทัย ขันอาสา พนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุกราดยิงดังกล่าว ในขั้นแรกได้เข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.มหาราชนครราชสีมากว่า 6 เดือน โดยผ่าตัดลำไส้ใหญ่และเปิดช่องท้องด้านหน้ารักษาจนอาการดีขึ้นและกลับบ้านเพื่อพักฟื้นใน จ.สกลนคร
ต่อมาพบพังผืดที่แผลด้านในจึงต้องกลับมาผ่าตัดรอบ 2 ที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา อีกครั้งซึ่งการผ่าตัดแก้ไขและปิดแผลเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่เมื่อเข้าพักฟื้นกลับมีอาการไอทำให้บาดแผลสะเทือนเลือดออกภายใน แพทย์ได้เร่งรักษาอาการไอและเย็บแผลใหม่แต่กลับเกิดอาการแทรกซ้อน จนทำให้ นายอุทัย เสียชีวิต
ภายหลังการเสียชีวิตผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ร่วมทำบุญบริจาคหีบศพ ส่วน รพ.มหาราชนครราชสีมา ได้จ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด ขณะที่กองทัพทหารราบที่ 23 ได้จัดเจ้าหน้าที่และยานพาหนะนำส่งร่างผู้เสียชีวิต ไปบำเพ็ญกุศลที่ภูมิลำเนา จ.สกลนคร ด้วย