สภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ผู้สูงอายุหลายคนยังต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว แต่การใช้ชีวิตบนท้องถนนของผู้สูงอายุไม่ได้ปลอดภัยเสมอไป เมื่อดูข้อมูลจากสถิติ พบว่าผู้สูงอายุ มีแนวโน้มเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเพิ่มสูงขึ้น ทั้งจากการขี่รถจักรยานยนต์ รถโดยสารประจำทาง รวมทั้งการเดินเท้า
ในปี 2560 มีผู้สูงอายุ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนจากสาเหตุทั้งหมด มากกว่า 3,500 คน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี
เมื่อยังต้องทำงาน และไม่อยากคนในครอบครัวลำบาก สวัสดิ์ ไฝ่ใจดี ยังต้องยึดอาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง เป็นอาชีพที่เค้าทำมากกว่า 30 ปี แม้วันนี้ ในวัย 77 ปี ร่างกายถดถอยไปตามวันเวลา แต่ลุงสวัสดิ์ยังคงต้องทำงานหาเงินเพื่อครอบครัว
ทุกวันลุงสวัสดิ์ นั่งรอผู้โดยสารประจำอยู่ที่วินจักรยานยนต์รับจ้างเคหะทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ เค้าเริ่มทำงานตั้งแต่ตี 4 ใช้เวลาสั้นๆ พักผ่อนช่วงบ่าย ก่อนออกวิ่งรับ-ส่งผู้โดยสาร ต่อ ถึง 4 ทุ่ม เพราะต้องหาเงินให้มีรายได้วันละ อย่างน้อย 600 บาท
อายุ 77 ปีแล้ว แต่ยังต้องขี่รถรับจ้าง ยอมรับว่าลำบากแต่ต้องทำให้ลูกให้หลานมีกิน ยังมีกำลังต้องทำไปก่อน เพราะลูกหลานมีเยอะ
ประสบการณ์จากการขับรถบรรทุก และรถสามล้อมาหลายปี เป็นสิ่งที่สวัสดิ์ ยืนยันว่า ทำให้เค้ามีความเชี่ยวชาญการขี่รถจักรยานยนต์ และชำนาญเส้นทางในกรุงเทพฯเป็นอย่างดี
THE EXIT จึงทดลองนั่งจักรยานยนต์ของลุงสวัสดิ์ เป็นคนขับ ระยะเวลาประมาณ 30 นาที พบว่าใช้ความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเร็วก็เพิ่มขึ้น และลดลงตามความหนาแน่นของรถบนถนน
แม้การขับรถของผู้สูงอายุในเมืองจะมีความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ แต่ลุงบอกว่าไม่กลัวหรือกังวล แต่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ใช้รถเครื่องยนต์ไม่สูง เพียงแค่ 110 ซีซี เพื่อให้สามารถควบคุมรถได้
เคยเจอรถมาใกล้ห่างแค่ 10 วาก็ต้องเบรกให้อยู่ ยังไม่เคยชนใคร มีแต่ถูกขับมาชน เขาตามหลังมาบางทีไม่เห็น หมุนกลับเคว้ง แต่โชคดีไม่เป็นอะไร
ทางม้าลาย-รถเมล์สาธารณะทางเลือก
2 ปีที่แล้ว ลุงบุญส่ง กงล้ำเลิศ วัย 74 ปี เคยถูกรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชน ขณะข้ามถนนบริเวณตลาดย่านสะพานใหม่ แม้อุบัติเหตุครั้งนั้นจะบาดเจ็บที่แขนขวาเพียงเล็กน้อย แต่ทำให้เค้ากลัวการข้ามถนนคนเดียว
เพราะแม้จุดนี้จะเป็นทางม้าลาย แต่ไม่มีสัญญาณไฟเขียวไฟแดง เป็นแค่ไฟเตือนให้ระวังคนข้ามถนน จึงมักจะเกิดเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนคนข้ามถนน
เคยถูกรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชน และบางทีเจอรถมาเบียดแขน แถวสะพานใหม่มีรถเยอะ
เป็นประจำทุกสัปดาห์ที่ผู้สูงอายุ วัย 80 ปีคนนี้ จะเดินทางจากบ้านย่านประชาอุทิศ เขตราษฎร์บูรณะไปเยาวราชด้วยรถเมล์ เค้าบอกว่าสายตา และร่างกายไม่เอื้อต่อการขับขี่รถยนต์แล้ว จึงจำเป็นต้องใช้รถ เมล์ในเดินทางไปสถานที่ต่างๆ แม้จะไม่สะดวกสบายและเอื้อต่อการเดินทางสำหรับผู้สูงอายุมากนัก
ส่วนนายปรีชา จารุเจริญพร ผู้สูงอายุที่ใช้รถโดยสารประจำทาง สายตาไม่ดีเลยพึ่งรถประจำทาง ถ้าลงรถต้องระวัง รถเมล์รุ่นใหม่จะพอดีกับทางเท้า
การเดินทางของผู้สูงอายุในกรุงเทพฯ หลายคนจำเป็นต้องใช้รถสาธารณะ ต่อด้วยเดินเท้า และข้ามถนน บางจุดแม้จะมีสะพานลอย แต่กลับสูงชัน ทำให้ผู้สูงอายุบางคนเหนื่อยหอบ โดยเฉพาะเมื่อเป็นสะพานลอยบนถนน 4 เลน
นายมนูเทพ ลีลาเกษมสมบูรณ์ ผู้สูงอายุที่ใช้สะพานลอย บอกว่า เท่าที่เดินข้ามสะพานลอยพอเห็นสะพานลอยข้ามบอกกับภรรยาเลยว่าคนที่ออกแบบแย่มาก เพราะขั้นบันไดระหว่างขาเหยียบแคบมาก ไม่พอดี เพราะคนเหยียบพลาดได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีราวจับที่ใหญ่เกินไป