อดีตนักเรียนชั้น ม.5 คนหนึ่ง เล่าให้ไทยพีบีเอสฟังถึงการถูกคุกคามทางเพศจากครูผู้ชายในโรงเรียน เธอเจอกับเหตุการณ์ลักษณะนี้เป็นครั้งคราวขณะเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เธอไม่ได้บอกเรื่องนี้กับผู้ปกครอง แต่ได้เล่าให้ครูผู้หญิงคนหนึ่งฟัง
เธอเล่าว่ายังมีเพื่อนบางคนที่ถูกคุกคามทางเพศจากครูคนเดียวกัน การคุกคามในโรงเรียนสำหรับนักเรียนหญิงไม่ได้เกิดจากครูคนใดคนหนึ่งเท่านั้น แต่กลายเป็นพฤติกรรมที่มีครูผู้ชายอีกคนคุกคามด้วย ซึ่งวิธีการของครูอีกคนอาจแตกต่างไป เช่น มักจะส่งข้อความหานักเรียนบางคนผ่านโชเชียลมีเดีย หรือบางครั้งอาจใช้การสัมผัสร่างกายเพื่อสร้างความคุ้นเคย
อดีตนักเรียนคนหนึ่งบอกว่า แม้ไม่เคยเจอกับการถูกคุกคามทางเพศในโรงเรียน แต่ก็ได้รับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นจากคำบอกเล่าของรุ่นพี่ เพื่อน และนักเรียนปัจจุบัน
นักเรียนบางคนที่ถูกคุกคามทางเพศจากครู ไม่มีใครบอกผู้ปกครอง เพราะไม่อยากให้ครอบครัวเป็นห่วง ส่วนใหญ่จะเล่าและปรึกษากันในกลุ่มเพื่อนสนิท มีเพียงบางคนเท่านั้นที่บอกครู แต่กลับได้รับคำตอบว่าครูผู้ชายคนนั้นล้อเล่น
นักเรียนคนหนึ่งที่ถูกคุมคามทางเพศ ไม่กล้าแม้แต่จะเล่าให้ผู้ปกครองฟัง เธอปรึกษาเพียงเพื่อนสนิทเท่านั้น เพราะกังวลว่าหากโรงเรียนรู้ว่าเธอเล่าเรื่องนี้ให้คนอื่นฟัง อาจถูกลงโทษตัดคะแนนความประพฤติ เพราะทำให้โรงเรียนเสียชื่อเสียง จึงให้เพื่อนสนิทให้ข้อมูลแทนผ่านทางโทรศัพท์ เพราะกลัวและไม่ไว้ใจคนแปลกหน้า
เด็กบางคนในโรงเรียนเดียวกันให้ข้อมูลผ่านแชทว่า ครูผู้ชายบางคนชอบเล่นมุกตลกเกี่ยวกับเรื่องเพศในห้องเรียน บางคนส่งสติกเกอร์รูปหัวใจ รวมทั้งเพลงรักให้นักเรียนผ่านโชเชียลมีเดีย จนทำให้เด็กบางคนไม่อยากเข้าเรียน หรือพยายามหลีกเลี่ยงเจอครูที่มีพฤติกรรมดังกล่าว
การคุกคามทางเพศ เรียกอีกอย่างว่าการลวนลามทางเพศ มีได้หลายรูปแบบ ไม่ได้มีความหมายแค่การข่มขืนเท่านั้น แต่หมายถึงการกระทำหรือการแสดงออกในทางเพศ ทั้งโดยตรงหรือโดยอ้อม ผ่านการใช้สายตา ท่าทาง เสียง คำพูด ร่างกาย หรือสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ ทำให้ผู้ที่ตกเป็นเป้าของการกระทำนั้น รู้สึกรำคาญ อึดอัด ไม่พอใจ เครียด หวาดระแวง หวาดกลัว และรู้สึกไม่ปลอดภัย
นักเรียนหญิงเหล่านี้จึงหวังให้ปัญหาคุกคามทางเพศหมดไปจากโรงเรียน ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม และทำให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัย