วันนี้ (10 ก.ค.2563 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากคณะเจ้าหน้าที่นำโดยนายสมชาย นุชนานนท์เทพ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 12 สาขากระบี่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำรวจ ทหาร กอ.รมน.
ฝ่ายปกครอง ส.ป.ก. ทสจ.ภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประมาณ 100 คน ร่วมกันดำเนินการบังคับใช้กฎหมายตามมาตรา 25 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 เข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของบริษัทวอเตอร์บีช ภูเก็ต จำกัด ตามคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเทือกเขานาคเกิด ที่ 1/2562 ลงวันที่ 20 มิ.ย.พ.ศ.2562 ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขานาคเกิด บริเวณหาดหุ้ย ชอยแหลมมุมนอก หมู่ที่ ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต เนื้อที่ 82 ไร่
นายสมชาย ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า หลังจากคณะเจ้าหน้าที่เริ่มเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างแล้ว 13 รายการบางส่วนจาก 19 รายการ เช่น อาคารเอนกประสงค์ อาคารซาวนา ระเบียงไม้ สระน้ำ ซุ้มอาหาร ปรากฎว่าทนายความของนายสิงหา ไพศาลวรชัย ได้มาข่มขู่ว่าจะฟ้องเจ้าหน้าที่ป่าไม้เป็นรายบุคคล หากยังจะรื้อถอนทรัพย์สิน
ภาพ:กรมป่าไม้
อธิบดีกรมป่าไม้ สั่งทีมกฎหมายส่วนกลางช่วย
โดยทนายความ อ้างและคัดค้านว่ามีบ้านพักบางรายการที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีที่จะถูกรื้อ รวมทั้งมีทรัพย์ สินในตัวบ้าน ทั้งที่พยายามอธิบายว่าเป็นการใช้คำสั่งตามมาตรา 25 และกรณีนี้ถือว่าเป็นไปตามคำสั่งของศาลฎีกา เนื่องจากมีการออกโฉนดในพื้นที่มไม่ชอบด้วยกฎหมาย และกรมที่ดินเพิกถอนที่ดินแปลงนี้แล้ว แต่ทนายความยังยืนยันว่าจะฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ ทำให้ต้องยุติการรื้อถอนทรัพย์สินที่เหลืออยู่
เขาบอกว่าจะฟ้องที่เจ้าหน้าที่มารื้อถอนทรัพย์สิน ซึ่งเจ้าหน้าที่มีหลักฐานคลิปในช่วงที่ทนายมาข่มขู่ จึงรวบรวมไปแจ้งความตำรวจ แต่ตำรวจไม่รับแจ้งความเพราะบอกว่ามีคดีอยู่แล้ว
ด้านนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ขณะนี้สั่งตั้งทีมกฏหมายจากส่วนกลางช่วยเหลือทางคดี โดยเน้นย้ำว่าไม่ต้องกลัว แต่ขอให้ดำเนินการให้รอบคอบ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ และยังอยู่ระหว่างการประกาศผนวกเพิ่มพื้นที่รอบๆเข้าเป็นป่าสงวนเพิ่มเติม และกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ก็สนับสนุนให้ประกาศเป็นป่าชุมชน