ผู้เสียหาย 2 คน นำหลักฐานเอกสารการโอนเงิน เข้าบัญชีชื่อของภรรยาของข้าราชการตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแห่งหนึ่ง มายืนยันต่อไทยพีบีเอส
ผู้เสียหาย อ้างว่าต้องจ่ายเงินคนละกว่า 100,000 บาท ให้กับขบวนการที่อ้างว่าจะทำให้ลูกของพวกเขาสอบเป็นลูกจ้างตำแหน่งครูธุรการ สังกัดสำนักงานประถมศึกษาสกลนคร เขต 3 ในปี 2561 ด้วยความหวังว่าลูกจะกลับมาทำงานใกล้บ้านและได้ดูแลแม่
เขาเรียกมาเรื่อย ๆ เป็นแสน ก่อนสอบจ่ายกว่า 130,000 บาท บอกว่าติด 1 ใน 14 ถ้าไม่ได้จะคืนเงินให้ ผลสอบลูกติดลำดับที่ 30 เมื่อทวงเงินคืนก็บ่ายเบี่ยง
กว่า 2 ปีที่ผ่านมา ผู้เสียหายทั้ง 2 คน พยายามทวงเงินคืนและตัดสินใจไปที่บ้านของข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดสอบ แต่ก็ต้องผิดหวัง
เขาบอกว่าคืนเงินให้ไม่ได้ เพราะกระจายไปให้แต่ละฝ่ายหมดแล้ว เดี๋ยวจะหาตำแหน่งใหม่ ครูธุรการเงินเดือน 9,000 บาท
นอกจากไม่ได้เงินคืน ผู้เสียหายยังถูกข่มขู่จากคนที่หลอกเรียกรับเงิน ว่า หากแจ้งความดำเนินคดี ลูกของเธอจะมีความผิดและไม่มีสิทธิ์สอบข้าราชการ
อย่างไรก็ตาม ผู้เสียหายตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มขบวนการเรียกรับเงินในช่วงเดือนที่ผ่านมา แต่ตำรวจไม่ได้ดำเนินคดีฉ้อโกง อ้างว่าส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ส่วนกลางสอบสวน เนื่องจากผู้ถูกกล่าวเป็นข้าราชการ
ไทยพีบีเอส สอบถามไปที่ ป.ป.ช.สกลนคร ระบุว่า ไม่ได้รับสำนวนจากตำรวจ แต่ให้ผู้เสียหายร้องเรียนกับ ป.ป.ช.สกลนครโดยตรง เพราะคดีเรียกรับเงินเพื่อสอบเป็นครู เป็นคดีที่ขยายผลไปถึงข้าราชการที่ทุจริตได้ยาก
ต่อมาไทยพีบีเอสยื่นหนังสือสอบถามไปที่ ผู้อำนวยการ สพป. ขอนแก่น เขต 1 ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของข้าราชการที่ถูกร้องเรียนว่าเรียกรับเงินสอบบรรจุครูธุรการ จ.สกลนคร
ล่าสุดได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว โดยผู้ถูกร้องเรียนปฏิเสธเรียกรับเงิน เจ้าหน้าที่จึงส่งเรื่องไปยังเลขาธิการ กพฐ. ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะตั้งคณะกรรมการสอบวินัยหรือไม่
ภูริทัต ภูร์ชัยแสง ผอ.โรงเรียนบ้านท่าสะอาด จ.บึงกาฬ เครือข่ายครูที่ติดตามปัญหาการทุจริต อ้างว่า กลุ่มขบวนการเรียกรับเงินสอบครูธุรการปี 2561 อาจเป็นกลุ่มเดียวกับกลุ่มที่เริ่มเรียกรับเงินสอบครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษปี 2563 ที่จะจัดสอบในวันที่ 11 ก.ค.นี้ เขาได้รับข้อมูลว่าในพื้นที่ จ.สกลนคร และ จ.บึงกาฬ มีหลายกลุ่มเรียกรับเงินจากผู้สมัครคนละ 350,000-650,000 บาท
ไทยพีบีเอส ได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ที่อ้างว่าถูกเรียกรับเงินสอบบรรจุครู บางคนให้เบาะแสว่า ต้องจ่ายเงิน 700,000 บาท หากต้องการสอบได้บรรจุครูผู้ช่วยกรณีพิเศษในปีนี้ โดยผู้ที่ให้ข้อมูลยืนยันว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอถูกติดต่อให้จ่ายเงินเพื่อแลกกับการช่วยเหลือให้สอบบรรจุครูผู้ช่วย
เมื่อต้นเดือนมีสายโทรเข้ามาเป็นคนรู้จักในแวดวงการศึกษา ทาบทามในการสอบครั้งนี้ โดยให้โควตาหาคนที่จะสอบ ไม่ระบุเอก สาขา และวิชา เสนอราคา 700,000 บาท ซึ่งได้ปฏิเสธไป 2 ครั้ง เห็นว่าควรใช้ความสามารถ ไม่ใช่เงิน สักวันคงเป็นวันของเรา
ข้อมูลจากผู้เสียหายใน จ.สกลนคร และ จ.บึงกาฬ พบว่า ขบวนการกลุ่มนี้มีผู้เกี่ยวข้องและแบ่งหน้าที่กัน เช่น คนประสานงาน คนติดต่อหาผู้เสียหาย กลุ่มครู หรือคนในครอบครัวของข้าราชการครู และผู้บริหารการศึกษาระดับสูงในพื้นที่
ส่วนใหญ่ขบวนการเรียกรับเงินสอบบรรจุครูจะจบลงเพียงคดีฉ้อโกง และสิ้นสุดคดีเมื่อฝ่ายถูกกล่าวหายินดีคืนเงิน เป็นเรื่องยากจะสอบสวนขยายผลไปถึงการทุจริตของข้าราชการ เพราะผู้จ่ายกับผู้รับต่างสมประโยชน์และไม่กล้าให้ข้อมูล เกรงว่าจะอับอายหรือเสียหายหากยังต้องสอบบรรจุเป็นครู