ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"หมอธีระ" เตือนศบค.อย่าเร่งปลดล็อก-รับต่างชาติเข้าไทย

สังคม
23 มิ.ย. 63
09:42
2,246
Logo Thai PBS
"หมอธีระ" เตือนศบค.อย่าเร่งปลดล็อก-รับต่างชาติเข้าไทย
นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ โพสต์เฟชบุ๊กถึง ศบค.-นายกรัฐมนตรี ยก 5 ข้อความจริงที่ควรคำนึง ทบทวนมาตรการรับผู้ป่วยต่างชาติเข้าไทย ชี้ทั่วโลก COVID-19 ยังระบาดไม่หยุดเพิ่มวันละกว่า 1 แสนคนรวมตัวเลข 9 ล้านคน

วันนี้ (23 มิ.ย.2563) รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซ บุ๊ก Thira Woratanarat ว่า เรียน ศบค.และหน่วยงานความมั่นคงโปรดทบทวนมาตรการรับผู้ป่วยต่างชาติมารักษาในประเทศเถิดครับ ความจริงที่เราควรคำนึงถึง

1. โรคยังระบาดทั่วโลกกว่า 9 ล้านคน เพิ่มวันละแสนกว่า สัปดาห์ละล้านคน ความเสี่ยงจากต่างประเทศจึงมากเกินกว่าจะรับได้

2. ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่ได้มาคนเดียว มักต้องมีสมาชิกในครอบครัวเข้ามาด้วยไม่มากก็น้อย นั่นแปลว่าความเสี่ยงย่อมเพิ่มขึ้นมาก และเป็นมาตรการเลี่ยงบาลีของการเปิดประตูประเทศนั่นเอง

3. ไม่มีวิธีการตรวจคัดกรองใดที่จะการันตีความปลอดภัยได้ 100% และแต่ละวิธีที่เรามีอยู่นั้นมีความไวและความจำเพาะที่แตกต่างกันไปในแต่ละระยะของการติดเชื้อ โอกาสหลุดรอดของเคสที่ติดเชื้อจึงมีสูงขึ้นมากแน่ๆ หากเปิดรับตามมาตรการที่จะชงเข้าสู่ศบค.ตามที่ออกข่าวทางสื่อมวลชน

4. การเอาโรงพยาบาลของไทยมุ่งช่วยเศรษฐกิจประเทศด้วยการนำเข้าต่างชาติเข้ามารักษานั้น หากมีกรณีติดเชื้อในบุคลากรทางการแพทย์และต้องปิดโรงพยาบาลดังที่เราเห็นในประเทศเพื่อนบ้านเร็วๆ นี้ จะก่อให้เกิดผลกระทบตามมาต่อการดูแลรักษาประชาชนไทยจำนวนมาก และยิ่งทำให้ช่องว่างทางสังคมกว้างขึ้น และบ่งถึงความไม่เป็นธรรมด้านสุขภาพต่อสังคมไทยโดยรวม นำความเสี่ยงของคนทั้งประเทศมาแลกกับรายได้ที่มีโอกาสสูงที่จะเป็นลักษณะ "ได้ไม่คุ้มเสีย"

5.จำนวนบุคลากรทางการแพทย์ทั้งแพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์ เภสัชกร และอื่น มีจำกัดมาก การสร้างมาตรการที่นำความเสี่ยงมาสู่พวกเค้าเหล่านั้น อาจนำมาซึ่งความสูญเสียชีวิต การขาดแคลนบุคลากรที่จะเตรียมรับมือการระบาดระลอกใหม่ที่จะเกิดขึ้นได้จะมีอยู่แค่กรณีเดียวที่เราควรนำเข้าผู้ป่วยต่างชาติมารักษาในประเทศ นั่นคือ กรณีช่วยเหลือเชิงมนุษยธรรม และตามจริยธรรมทางการแพทย์

อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจรับต่างชาติ

สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคที่ประเทศรักษาไม่ได้แล้ว และประเทศเรารักษาได้ ทั้งนี้ต้องเป็นโรคที่คุกคามชีวิตหากไม่รักษาโดยเร็ว หากจะเป็นกรณีดังกล่าวก็มีน้อยมากจริงๆ กราบท่านนายกรัฐมนตรี ศบค. และหน่วยงานความมั่นคง โปรดไตร่ตรองให้ดี สิ่งที่ควรตัดสินใจทำในช่วง 1 ก.ค.คือ การปลดล็อกกิจการเสี่ยงสูงตามที่วางแผนไว้ ได้แก่ โรงเรียน ผับ บาร์ อาบอบนวด

การเปิดประตูแง้มให้ต่างชาติเข้ามานั้น ควรเป็นไปในลักษณะที่ทำเท่าที่จำเป็นจริงอย่าสู้ศึกหลายด้าน ไม่ควรทรนงว่าเราชนะ COVID-19 แล้ว เพราะประเทศที่ประกาศชัยชนะทั้งหลาย ล้วนกลับมาแพ้จนกำลังเมาหมัดอยู่ตอนนี้

ต่างชาติที่เราจะแง้มให้เดินทางเข้ามานั้น ตามที่ตกลงหารือกันคือ กลุ่มที่ลงทะเบียนไว้ราว 23,000 คน ประกอบด้วย 1.นักธุรกิจ นักลงทุน 670 คน 2.ผู้เชี่ยวชาญ แรงงานฝีมือที่จำเป็น 22,000 คน และ 3.คนต่างชาติที่ได้รับสิทธิพำนักในประเทศไทย เช่น คนที่แต่งงานกับคนไทย อีกจำนวนหนึ่ง

ทั้งนี้ทั้ง 3 กลุ่มข้างต้น ควรได้รับการตรวจคัดกรองตามมาตรฐานสากล เน้นความปลอดภัยทั้งต่อตัวเค้า และคนไทยทั้งชาติไม่ควรเล่นแร่แปรธาตุตามการชงแบบมั่วซั่ว และนำความเสี่ยงที่เกินกว่าจะรับได้เข้ามาการหาเงินมีหลายทาง สถานการณ์ปัจจุบันต้องหาเงินอย่างปลอดภัย อดทน อดออม อดกลั้น และโปรดระลึกถึงปรัชญา"เศรษฐกิจพอเพียง"เอาไว้ในใจเสมอ นี่คือคาถาอันศักดิ์สิทธิ์ที่จะปกป้องพวกเราทั้งประเทศจากภยันอันตรายครับ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชง 22 กฎเหล็กก่อนปลดล็อกผับ-บาร์-สถานบันเทิง รอลุ้น 1 ก.ค.นี้

ศบค.เตรียมปลดล็อกธุรกิจสถานบันเทิง

"ผับ - บาร์" ยังไม่ถึงเวลา

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง