วันนี้ (20 มิ.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดือนปี ที่เกิดไม่ตรงกัน เป็นความผิดปกติที่ THE EXIT พบ หลังจากตรวจสอบเอกสารการขอสัญชาติและบัตรประชาชนไทย กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียน อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ของชายสัญชาติไทยคนหนึ่ง จากการตรวจสอบพบว่าวันเดือนปีเกิดที่ระบุในเอกสารสำรวจบุคคลบนพื้นที่สูงเมื่อปี 2534 ต่างจากวันเดือนปีเกิดที่ระบุในใบขอสัญชาติและบัตรประชาชนไทย เมื่อปี 2556 ห่างกันถึง 18 ปี ชายสัญชาติไทยคนนี้ เป็นหนึ่งใน 15 รายชื่อ ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษพบว่าอาจเป็นบุคคลต่างชาติที่เข้ามาสวมสิทธิขอสัญชาติและบัตรประชาชน ในช่วงปี 2556 - 2559 ที่ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย
THE EXIT ลงพื้นที่ยังไป ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เพื่อหาข้อมูลบุคคลของชายสัญชาติไทยที่พบความผิดปกติการขอสัญชาติและบัตรประชาชนไทย ตามเอกสารสำรวจบุคคลบนพื้นที่สูงเมื่อปี 2534 ชายสัญชาติไทย ระบุที่อยู่ หมู่ 1 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย หลังเดินสำรวจโดยผู้นำชุมชน ไม่พบที่พักอาศัยตามที่อยู่ที่ถูกระบุ แต่จากคำแนะนำของของอดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 19 ทำให้พบนางนายอ แซ่ถัง อายุ 80 ปี อาศัยอยู่ หมู่ที่ 10 ต.ปอ อ.เวียงแก่น อ้างว่าเป็นป้าของชายสัญชาติไทยที่ THE EXIT กำลังตามหา เขายืนยันว่ารู้จัก แต่ไม่หลักฐานมายืนยัน
ข้อมูลจากใบสำรวจบุคคลบนพื้นที่สูง เมื่อปี 2534 พบว่ามีชื่อ นางอาหลัง แซ่เฉิน ปรากฏเป็น 1 ในพี่น้องครอบครัวเดียวกันกับชายสัญชาติไทยที่ THE EXIT กำลังตามหา จากข้อมูลพบว่าอาหลัง อาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.แม่สาย แต่เมื่อ THE EXIT สอบถามข้อมูล อาหลัง กลับไม่รู้จักชายสัญชาติไทยคนดังกล่าว และไม่รู้จักนางนายอ แซ่ถัง ที่อ้างว่าเป็นป้า
THE EXIT เดินทางกลับไปที่ อ.เวียงแก่น อีกครั้ง เพื่อไปตรวจสอบข้อมูลประวัติการเข้าใช้บริการที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านปางปอ แต่ไม่พบว่าเขาเคยมาใช้บริการที่นี่ เมื่อตรวจสอบในระบบหลักประกันสุขภาพพบว่าชายสัญชาติไทยแจ้งใช้สิทธิที่ จ.สมุทรปราการ เมื่อปี 2560 จากข้อมูลที่ THE EXIT ตรวจสอบกับฝ่ายทะเบียนราษฎร์ อ.เวียงแก่น พบความผิดปกติในขั้นตอนของการขอสัญชาติและบัตรประชาชนไทยทั้งเรื่องของข้อมูลที่ระบุไว้ในเอกสารไม่ตรงกัน
นายอุดม อยู่อินไกร
นายอุดม อยู่อินไกร
นายอุดม อยู่อินไกร นายอำเภอเวียงแก่น ให้ข้อมูลว่าบุคคลดังกล่าวอยู่ในระหว่างที่ อ.เวียงแก่น กำลังจะเพิกถอนสัญชาติ เนื่องจากจากหลักฐานและพฤติกรรม เข้าข่ายสวมสิทธิการเป็นคนไทย ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการ
ชายสัญชาติไทยที่ THE EXIT ลงพื้นที่ไปตรวจสอบเป็นเพียง 1 ใน 10 รายที่พบความผิดปกติในการขอมีสัญชาติและขอมีบัตรประชาชนไทย ก่อนหน้านี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษพบคนต่างชาติกลุ่มนี้เข้ามาสวมสัญชาติ และเปิดบริษัททำธุรกิจต้องห้ามในประเทศไทย และยังพบว่าในช่วงปี 2556-2559 มีความผิดปกติในการให้สัญชาติไทยกับกลุ่มคนต่างชาติเพิ่มเติมอีกกว่า 255 คน ซึ่งมีปลัดอำเภอในขณะนั้นอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง