เด็กที่จะเข้ามา เราไม่ต้องไปหานะ เขาจะเข้ามาเป็นลูกโซ่
กว่า 10 ปีที่หญิงวัย 37 ปี ผันตัวเองเป็นผู้จัดหาหญิงบริการให้กับลูกค้า แต่ในวันนี้เธอได้เลิกทำอาชีพแบบนั้นแล้ว แต่ผันตัวเองประกอบอาชีพค้าขาย เธอเล่าว่า ถูกเพื่อน ชักจูงเข้าสู่วงการ ตั้งแต่ย้ายเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมต้นแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น โดยเด็กหญิงวัยแรกรุ่นช่วงอายุ 13-14 ปี เป็นเป้าหมายถูกชักชวนง่าย โดยเฉพาะเด็กต่างอำเภอ ที่ต้องมาอาศัยหอพักใกล้โรงเรียนในเมือง
รูปแบบการขายบริการในอดีต ส่วนใหญ่ต้องผ่านแม่เล้าหรือนายหน้า ทำหน้าที่ติดต่อลูกค้า รับงาน และหักเงินค่าหัวหรือ ตรียมสถานที่ ในจุดที่มีรองรับนักท่องเที่ยว แต่ปัจจุบัน พื้นที่สาธารณะไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะ หรือหน้าโรงเรียน แหล่งชุมชนร้านค้า กลายเป็นเพียงจุดนัดพบเท่านั้น
ข้อตกลงต่างๆ ทั้งราคา ข้อเสนอ เป็นส่วนตัวมากขึ้น ผ่านช่องการสื่อสารต่างๆ และส่วนใหญ่เป็นรูปแบบเพื่อนชวนเพื่อน ส่วนลูกค้าก็อาจเป็นคนใกล้ตัว
การเข้าถึงเทคโนโลยีที่สะดวกและค่านิยมในกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่เกินความจำเป็นกลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัย ที่ทำให้นักเรียนผันตัวเองเข้าสู่วงจรเครือข่ายค้าบริการมากขึ้น
อดีตนายหน้าคนนี้ สะท้อนว่า ความยากจนไม่ใช่ปัจจัยสำคัญของการค้าประเวณีอีกต่อไป แต่เป็นเพราะความเหลื่อมล้ำในสังคมที่นิยมภาพลักษณ์ของคนมีเงิน
ข้อมูลนี้ สอดคล้องกับข้อมูลจากศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ตำรวจภูธรภาค 4 พบว่า มีคดีที่เกี่ยวข้องกับการค้าประเวณีและเป็นธุระจัดหาเมื่อปี 2562 จำนวน 19 คดี บางคดีมีผู้เสียหายเป็นหญิง อายุระหว่าง 12-13 ปี และบางคดีอายุไม่เกิน 15 ปี
ส่วนข้อมูลปี 2563 เฉพาะต้นปีจนถึงปัจจุบัน มีคดีที่เกี่ยวข้องกับการค้าประเวณีและเป็นธุระจัดหาแล้วถึง 10 คดี ผู้เสียหาย 14 คน ผู้ต้องหา 12 คน หนึ่งในนั้นผู้จัดหาเป็นเด็กชายอายุ 13 ปีเท่านั้น
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ภาณุ บุรณศิริ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยว่า ข้อมูลด้านข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคดีค้าประเวณีและเป็นธุระจัดหาฯ โดยเฉพาะกับเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี มีโทษจำคุกสูงสุดตลอดชีวิต แต่ก็ยังปรากฎคดีเหล่านี้ต่อเนื่อง และส่วนใหญ่มักจะไม่เป็นคดีความเพราะเกิดการเจรจา แล้วจ่ายเงินทดแทนค่าเสียหายแลกกับการดำเนินคดี
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
The EXIT : เปิดเครือข่าย "ค้าประเวณีวัยเรียน"