วันนี้ (10 เม.ย.2563) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงว่า สถานการณ์โลกวันนี้ พบติดเชื้อ COVID-19 สะสม 1,603,984 คน เสียชีวิต 95,731 คน อาการดีขึ้น 356,656 คน และอาการหนัก 49,127 คน โดยสหรัฐอเมริกา ยังมีผู้ป่วยมากที่สุด
สำหรับประเทศไทยอยู่ที่อันดับ 44 ของโลก โดยวันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 50 คน ยอดสะสม 2,473คน หายป่วยกลับบ้าน 1,013 คน เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน รวมเสียชีวิต 33 คน โดยผู้เสียชีวิตเป็นหญิงไทย อายุ 43 ปี อาชีพค้าขาย มีโรคประจำตัว หรือแพ้ภูมิตัวเอง ได้รับการรักษาในวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมากใน จ.ฉะเชิงเทรา แรกรับหายใจหอบเหนื่อย พบปอดอักเสบรุนแรง และเสียชีวิตในวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่ผลแล็บเพิ่งออกมาเมื่อวานนี้
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยใหม่มาจากผู้ป่วยเฝ้าระวังผู้เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 27 คน และกลุ่มที่ไม่เกี่ยวกับผู้ป่วยก่อนหน้า 15 คน มีทั้งคนไทยจากต่างประเทศ พบในที่ชุมชน อาชีพเสี่ยง และบุคลากรทางการแพทย์ พบรายใหม่อีก 4 คน และอยู่ระหว่างสอบสวนโรค 8 คน
ภูเก็ต ยอดผู้ป่วยเพิ่มต่อเนื่องเฉียด 200 คน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า เมื่อจำแนกจังหวัดที่พบผู้ป่วยมี 68 จังหวัดแล้ว โดย จ.ภูเก็ต ยังเป็นจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มต่อเนื่อง เมื่อเทียบผู้ป่วยสะสมจะพบว่าภูเก็ตอยู่อันดับ 2 ของประเทศ มีผู้ติดเชื้อ 166 คน ขณะที่ กทม.ก็ยังมีผู้ป่วยสะสมมากที่สุด 1,262 คน
อัตราการป่วยต่อประชากรแสนคน ภูเก็ตก็มากที่สุด 38.95 คนต่อประชากรแสนคน ส่วนจังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยลดลงเหลือ 9 จังหวัด เพราะ จ.พังงา พบผู้ป่วยติดเชื้อแล้ว
เมื่อจำแนกผู้ป่วยรายภาคจะพบว่าในพื้นที่ กทม.และนนทบุรี รวมถึงภาคใต้ ยังน่าเป็นห่วงอยู่ โดยกลุ่มอายุผู้ติดเชื้อ 20-29 ปี ยังพบมากที่สุด ซึ่งคนกลุ่มนี้จะเป็นพาหะที่นำเชื้อไปแพร่ในบ้าน
กลุ่มเสี่ยงยังเป็นวัยทำงานอายุ 20-29 ปี ซึ่งมีมากที่สุดดังนั้นจึงขอเตือนว่าเป็นผู้ที่กระจายไวรัสเดินได้
สำหรับปัจจัยเสี่ยงในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา การเพิ่มขึ้นของคนป่วยยังมาจากคนไทยกลับจากต่างประเทศ และอาชีพเสี่ยงเป็นกลุ่มก้อนที่มีการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น และกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ก็มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน
สงกรานต์ เลี่ยงสังสรรค์-มั่วสุม
โฆษก ศบค.กล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้มีมาตรการภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทั้งการเคอร์ฟิว ห้ามออกนอกเคหสถานตามเวลาที่กำหนด และล่าสุดการงดขายประกาศห้ามขายเหล้าและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง ใน 11 จังหวัดที่เหลื่อมเวลากัน ได้แก่ จ.ระยอง สุพรรณบุรี สุรินทร์ ลำพูน สกลนคร พิษณุโลก บุรีรัมย์ นครปฐม มุกดาหาร สมุทรสงคราม เชียงใหม่ รวมทั้ง กทม.ที่จะเริ่มวันแรก แต่มีคำถามว่าก่อนจะห้ามก็พบมีการกักตุนไว้ดื่มสังสรรค์ในช่วงสงกรานต์
ถ้าสงกรานต์มีการดื่มสังสรรค์ มั่วสุมกัน และทำให้เกิดความเสี่ยงในแพร่ระบาดของโรค ตำรวจสามารถดำเนินคดีได้ เพราะเราอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงขอเตือนว่าไม่ควรจะไปนั่งเกาะกลุ่ม มั่วสุมกันเพราะเป็นความเสี่ยง
ซึ่งไม่เพียงแค่กิจกรรมจากการสังสรรค์เท่านั้น แต่สงกรานต์ปีนี้ก็ขอลูกหลานควรเว้นระยะห่างกับผู้สูงอายุในบ้าน เพราะถือเป็นกลุ่มเสี่ยง
คนไทย-นักเรียน AFS กลับบ้านเพิ่ม
สำหรับกลุ่มคนไทยที่กำลังเดินทางกลับวันนี้ มีจำนวน 33 คนมาจากจากเนเธอแลนด์ 15 คน และสิงคโปร์ 18 คน ซึ่งต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัว 14 วันในพื้นที่รัฐกำหนดไว้ ส่วนวันพรุ่งนี้ (11 เม.ย.) จะมีคนไทยจากรัสเซีย และญี่ปุ่น รวมทั้งยังมีรายงานกลุ่ม AFS จากสหรัฐอเมริกาอีก 150 คน ซึ่งมีข่าวดีว่าทางสหรัฐฯจะส่งเครื่องบินมารับทหารที่มาฝึกในไทยกลับประเทศ จึงจะหาช่วงเวลาที่รับและส่งกลับมา จึงไม่ต้องกังวลว่าลูกหลานคนไทยจะไมได้กลับบ้าน รัฐกำลังประสานหาเวลาที่เชื่อมเวลาระหว่างทหารสหรัฐ กับเด็กนักเรียนแลกเปลี่ยน
เมื่อกลับมาแล้วทุกคนต้องกักตัวตามระยะเวลา ซึ่งหากเทียบกับพื้นที่รัฐในไทยกับต่างประเทศ เราดูแลดีแบบวีไอพี ตอนนี้ทางกระทรวงมหาดไทยและกลาโหม จะพยายามหาสถานที่รองรับคนอีกนับหมื่นที่จะเดินทางกลับ