วันนี้ (9 เม.ย. 2563) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า กรณีมีการตรวจพบผู้ป่วยที่มารักษาตัวในโรงพยาบาลหนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ ติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) เกิดขึ้นซ้ำว่า ได้ตรวจสอบประวัติและข้อมูลการรักษาของผู้ป่วยคนนี้พบว่า แนวทางการรักษา และความร่วมมือของผู้ป่วยเป็นไปตามมาตรฐานทุกขั้นตอน รวมทั้งผู้ป่วยให้ความร่วมมือในการกักตัวเองหลังออกจากโรงพยาบาลได้อย่างดีมาก
เบื้องต้นรายงานผลการตรวจเชื้อ COVID-19 เป็นผลบวก เมื่อเทียบกับรายงานทางวิชาการของศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐอเมริกาที่ระบุว่า สามารถตรวจพบซากเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ตายแล้วได้ในผู้ป่วยที่ได้รักษาหายเป็นปกติได้ถึง 30 วัน สำหรับซากเชื้อก็คือเชื้อที่ไม่มีชีวิต ไม่สามารถแพร่ได้ แต่ก็ยังต้องให้ผู้ป่วยแยกตัว
จากประวัติการรักษาและผลการตรวจซ้ำ น่าจะไม่ใช่การติดเชื้อครั้งใหม่ทำให้ป่วยซ้ำ แต่น่าจะเป็นผลบวกจากการตรวจพบซากเชื้อ COVID -19 ในร่างกายของผู้ป่วย
ขณะนี้โรงพยาบาลหนองบัวแดง ได้รับตัวผู้ป่วยคนนี้เข้ารักษาและสังเกตอาการ และได้ให้กรมการแพทย์แยกเพาะเชื้อ เพื่อศึกษาวิจัยถึงความเป็นไปได้ว่าเชื้อจะเพิ่มขึ้นได้หรือไม่
ภาพ:กระทรวงสาธารณสุข
ตีวงค้นกลุ่มเสี่ยงกลับจาก ตปท.-อาการคล้ายหวัด
ด้านนพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก (Active case finding) ว่า เป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมและเฝ้าระวังโรค จึงให้ความสำคัญและดำเนินการอย่างเต็มที่ โดยกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน เน้นกลุ่มที่กลับจากต่างประเทศ กลุ่มที่มีอาการคล้ายไข้หวัด ซึ่งจะทำให้การพยากรณ์โรคทำได้ชัดเจน ค้นพบผู้ป่วยมารักษาและควบคุมโรคได้อย่างรวดเร็ว
สถานการณ์ในจ.ภูเก็ต มีผู้ป่วยจำนวนมาก จะต้องใช้การสอบสวนโรคและวิเคราะห์ข้อมูลทางระบาดวิทยา เพื่อกำหนดพื้นที่ กำหนดอาชีพที่ควรตรวจ เป็นยุทธศาสตร์ในการค้นหาผู้ป่วยรายใหม่ ทำให้การแปลผลแม่นยำขึ้น