วันนี้ (9 เม.ย.2563) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เทดรอส อาดานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก เรียกร้องให้ทุกประเทศมีความเป็นหนึ่งเดียว และไม่นำเรื่อง COVID-19 มาเป็นเรื่องการเมือง นอกจากนี้ยังขอให้มีความสามัคคีในระดับโลก และความเป็นผู้นำที่ซื่อสัตย์ทั้งจากจีนและสหรัฐอเมริกา เพราะผู้นำประเทศที่มีอิทธิพลมากที่สุด ควรจะเป็นผู้นำทาง และกันเรื่อง COVID-19 ออกจากการเมือง
นอกจากนี้ ยังได้กล่าวปกป้องการทำงานขององค์การอนามัยโลกว่า การระบาดที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน ดังนั้นการรับมือใดๆ จึงเป็นเรื่องที่ต้องถกกันในอนาคต แต่ตอนนี้เป็นเวลาแห่งความสามัคคี ประชาคมโลกจะต้องเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อหยุดยั้งไวรัส และผลกระทบที่จะเกิดตามมา
ถ้อยแถลงของผู้นำองค์การอนามัยโลก เกิดขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวหาองค์การอนามัยโลกว่าให้ความสำคัญกับจีนมากเกินไป และยังให้คำแนะนำที่ผิดพลาดในการรับมือกับเชื้อ COVID-19 ด้วย เช่นการที่องค์การอนามัยโลกไม่สนับสนุนคำสั่งระงับการบินของหลายประเทศทั่วโลก พร้อมขู่ว่าสหรัฐฯ กำลังพิจารณายกเลิกการให้เงินสนับสนุนแก่องค์การอนามัยโลก
ทั้งนี้สหรัฐฯ เป็นผู้สนับสนุนเงินรายใหญ่ให้กับองค์การอนามัยโลก โดยคิดเป็นร้อยละ 15 ของงบประมาณทั้งหมดขององค์การอนามัยโลก
ด้านนายแอนเดอร์ส เทกเนลล์ หัวหน้าฝ่ายระบาดวิทยาของสำนักงานสาธารณสุข ประเทศสวีเดน ได้กล่าวถึงกรณีที่ทรัมป์ระบุว่า ประเทศสวีเดนใช้การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ หรือ "อิมมูนิตี้ เฮิร์ด" รับมือกับการระบาดของเชื้อ COVID-19 โดยระบุว่าสิ่งที่ทรัมป์พูดคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
เช่นเดียวกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ที่บอกว่าความเห็นของทรัมป์ ผิดพลาดจากความเป็นจริง เพราะสวีเดนใช้มาตรการคุมเข้มการระบาด หลายอย่าง เช่นห้ามการเยี่ยมผู้สูงอายุในบ้านพักคนชรา และให้นักเรียนเรียนหนังสือผ่านระบบออนไลน์ ทั้งนี้ สวีเดนมีผู้ติดเชื้อ 8,419 คน เสียชีวิต 687 คน