เมื่อวานนี้ (8 เม.ย.2563) สวนพวงมณี ต.คมบาง อ.เมืองจันทบุรี สวนบุฟเฟต์ผลไม้ชื่อดังของ จ.จันทบุรี โดยเฉพาะทุเรียน สายพันธุ์พวงมณี ที่มีผลขนาดเล็ก เปลือกบาง หนามแหลม รสชาติหวาน เนื้อละเอียด สีเหลืองเข้ม เมล็ดในค่อนข้างใหญ่เป็นที่ต้องการของลูกค้าต่อเนื่อง มียอดส่งจองและยอดขายที่หน้าสวนแต่ละปี มูลค่านับล้านบาท แต่เมื่อกระทบเข้ากับวิกฤต COVID-19 ทำให้ปีนี้สวนพวงมณีต้องปิดตัวลง
แม้ว่าจะไม่มีคำสั่งจากทางภาครัฐ แต่เพื่อให้ทุกคนได้ทำตามนโยบาย คือการอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ การเดินทางท่องเที่ยว จึงถูกงดตามไปด้วย และเมื่อวิกฤต ทำให้ต้องปิดสวน แต่ถือเป็นโอกาสให้ได้พักสวน เพื่อปรับปรุงโครงสร้างต่างๆภายในสวน แรงงานคนในครอบครัวได้พักจากการรับรองนักท่องเที่ยว
เปิดให้ล้งเข้ามาเหมาตัดทุเรียน
ทั้งนี้ ยังเปิดให้เพียงเจ้าของล้ง เข้ามาเหมาตัดทุเรียน สายพันธุ์ต่างๆ ภายในสวน ทั้งพวงมณี ชะนี ก้านยาว และหมอนทอง ส่งผลให้มูลค่ารายได้ต่อปี ลดลงไปประมาณ 40% เมื่อเทียบกับการเปิดขายหน้าสวนเป็นประจำทุกปี
นอกจากการตัดขายให้กับล้งทุเรียน ส่งจีนแล้ว ทุเรียนในสวนยังพอมีเหลือให้สำหรับช่องทางการตลาดออนไลน์ที่ลูกค้าขาประจำ ที่เคยแวะเวียนมาชิมที่หน้าสวน ยังคงคาดหวังได้รับสินค้าคุณภาพเช่นเดิน ผ่านการจัดส่งทางระบบขนส่งเอกชน ซึ่งนอกจากการจะต้องอาศัยความแม่นยำในการคาดคะเนความสุกให้ตรงใจของลูกค้า
รับประกันเปลี่ยนสินค้าให้ใหม่ฟรี
ผลกระทบจากวิกฤต COVID-19 ยังมีผลให้การขนส่งล่าช้าออกไปอีกได้ เนื่องจากการเดินทางที่มีการตรวจคัดกรองละเอียดมากขึ้น สินค้าบางส่วนอาจจะเสียหายจากการขนส่ง แต่มีบริการรับประกันเปลี่ยนสินค้าให้ใหม่ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับสวนบุฟเฟต์ที่ปิดตัวในฤดูผลไม้นี้