วันนี้ (7 เม.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางกานต์เปรมปรีด์ ชิตานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดแพร่ แถลงข่าวพร้อมด้วยนายวนญาณ บุณณราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ และ นพ.ขจร วินัยพานิช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่
นางกานต์เปรมปรีด์ ระบุว่า วันนี้มีการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแพร่ โดยคณะกรรมการมีมติ "ปิดจังหวัด" ในช่วงวันที่ 10-17 เม.ย.2563 เพื่อยับยั้งการกระจายเชื้อ COVID-19 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยจะไม่ให้ประชาชนเดินทางเข้า-ออกในช่วงเวลาดังกล่าว นอกจากมีความจำเป็นและต้องขออนุญาตจากผู้ว่าราชการจังเป็นรายกรณี ยกเว้นการขนส่งสินค้าที่จำเป็น
นอกจากนี้ยังมีการตั้งคณะทำงานที่จะประชาสัมพันธ์ข้อมูลและการดำเนินมาตรการต่างๆ ของจังหวัด เพื่อป้องกันการเสนอข่าวเท็จที่จะทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก ส่วนเรื่องสถานที่กักตัว จะมีเอกชนมาร่วมโครงการด้วย ซึ่งขณะนี้ จ.แพร่ มีความพร้อมอย่างมากที่จะรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น
"แพร่" พบผู้ป่วย 1 คน รักษาหายแล้ว
นพ.ขจร วินัยพานิช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่ กล่าวว่า ในพื้นที่ จ.แพร่ ยังพบผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 เพียงคนเดียว ซึ่งได้รับการรักษาจนหายดีและกลับบ้านได้แล้ว แต่ยังอยู่ในช่วงที่ต้องกักตัวเองในบ้านจนครบ 30 วันนับตั้งแต่เริ่มป่วย
อย่างไรก็ตาม มีการตรวจผู้ที่เข้าข่ายเฝ้าระวังอีก 40 คน หนึ่งในนั้นคือผู้ที่มีอาการป่วยคนดังกล่าวและอยู่ในช่วงกักกันตัวเอง ส่วนอีก 39 คนไม่พบว่าติดเชื้อ นอกจากนี้ยังมีการเฝ้าระวังกลุ่มที่เดินทางมาจากต่างประเทศที่พบการระบาดและพื้นที่เขตติดโรค ทั้งหมด 238 คน ในจำนวนนี้ 25 คนอยู่ระหว่างสังเกตอาการ 14 วัน ส่วนที่เหลือกักตัวครบตามกำหนดแล้วและไม่มีอาการป่วย
นพ.ขจร ยังระบุอีกว่า กลุ่มแรงงานไทยที่เดินทางกลับมาจากเกาหลีใต้อยู่ในข่ายเฝ้าระวังให้ครบ 14 วัน จำนวน 2 คน ส่วนอีก 24 คนกักตัวครบตามกำหนดแล้วเช่นกัน ขณะที่อีกหนึ่งกลุ่มใหญ่คือผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดต่างๆ ทั้งกรุงเทพมหานคร-ปริมณฑล และจังหวัดอื่นๆ ที่พบผู้ติดเชื้อ มียอดสะสม 3,405 คน กักตัวครบ 14 วันแล้ว 887 คน ยังเหลืออีก 2,518 คนอยู่ระหว่างเฝ้าสังเกตอาการที่บ้าน ซึ่ง จ.แพร่ ได้ดำเนินการเฝ้าระวังแบบเข้มข้นมาตั้งแต่พบการระบาด