วันนี้ (6 เม.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานเอกอัครราชทูตไทยในอินเดีย ยืนยันว่า มีความพร้อมที่จะส่งคนไทยกลับบ้าน หากสถานการณ์เอื้ออำนวย
ขณะที่ นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย นำชาวอินเดียหลายล้านคนร่วมจุดเทียนและส่องไฟท่ามกลางท้องฟ้าอันมืดมิด เพื่อแสดงพลังสามัคคีต่อสู้กับ COVID-19
มาตรการปิดเมืองทั่วประเทศ 21 วัน คุกคามชาวอินเดียกว่า 1,300 ล้านคน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะชนชั้นแรงงาน ผู้มีรายได้น้อย รวมทั้งชาวต่างชาติที่ต้องตกค้างอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากเช่นนี้
หนึ่งในคนไทยที่ไปทำงานในเมืองวิสาขปัตนัม ทางตะวันออกของอินเดีย เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา เปิดเผยกับทีมข่าวไทยพีบีเอส ว่า ตอนแรก รู้สึกลังเลที่จะเดินทางกลับ เนื่องจากได้รับข่าวสารว่ารัฐบาลอินเดียสามารถจัดการกับการแพร่ระบาดได้
คนอินเดียและคนไทยบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า คำสั่งปิดเมืองอย่างกะทันหัน ทำให้ทุกคนไม่ทันตั้งตัว ขณะที่การปิดน่านฟ้าเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ทำให้ความหวังที่จะเดินทางกลับไทยริบหรี่ลงทันใด
ขณะที่แม่คนไทยที่ตกค้างอยู่ในเมืองดาร์จีลิงพร้อมกับลูกชายที่เดินทางมาเรียนภาษา ได้พยายามช่วยรวบรวมรายชื่อคนไทยที่ต้องการกลับประเทศ โดยเธอยังคงหวังว่า จะได้กลับมาเหยียบแผ่นดินเกิดในเร็วๆ นี้ พร้อมทั้งออกมาเรียกร้องให้ทางการไทยสื่อสารกับคนไทยในต่างแดนอย่างตรงไปตรงมา เพื่อหาทางออกร่วมกันและมีแผนที่เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
ขณะที่ นายชุตินทร คงศักดิ์ เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงนิวเดลี ยืนยันกับทีมข่าวไทยพีบีเอส ว่า ทุกคนที่อยากกลับบ้านต้องได้กลับ เจ้าหน้าที่พร้อมช่วยเหลือ และจะอยู่จนกว่าคนไทยคนสุดท้ายจะเดินทางกลับ
เราจะจับมือคนไทยให้อุ่นขึ้น
ทั้งนี้มีคนไทยมาลงทะเบียนกับสถานทูตแล้วมากกว่า 1,700 คน ในจำนวนนี้ มีผู้ที่ประสงค์จะเดินทางกลับไทยมากกว่า 1,500 คน ซึ่งสถานทูตได้ศึกษาแนวปฏิบัติในการอพยพพลเรือนของสถานทูตอื่นๆ ในอินเดีย พร้อมทั้งวางแผนเตรียมการเพื่อให้สามารถส่งคนไทยกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย แต่ความท้าทายสำคัญหลังจากนี้ ก็คงหนีไม่พ้นการจัดการการเดินทาง เพราะอินเดียเป็นประเทศใหญ่ ขณะที่คนไทยกระจายอยู่ในหลายเมือง และสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ยังไม่ดีขึ้น บางพื้นที่อาจเลือกที่จะปิดเมืองต่อ ซึ่งย่อมกระทบต่อการเดินทางอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"มาเลเซีย" พบป่วยอีก 179 คน ประกาศเพิ่มเขตอันตราย
สธ.โปรตุเกสรับบุคลากรการแพทย์ติด COVID-19 กว่า 1,300 คน