วันนี้ (5 เม.ย. 2563) นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดความปลอดภัยกับประชาชน
กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเตรียมพร้อมดำเนินการ ในกรณีศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ ศบค. ยกระดับการปฏิบัติการ ได้แก่
1.จัดเตรียมพื้นที่รองรับการกักกันตัวของจังหวัด (Local Quarantine) ให้มีความพร้อม โดยสามารถพิจารณาใช้พื้นที่ของภาคเอกชนได้ ทั้งในด้านการจัดทำเป็นสถานที่กักกันตัว โรงพยาบาลสนาม คลังเก็บอาหาร เครื่องดื่ม จุดรับบริจาค จุดประชาสัมพันธ์ให้ข่าว รวมทั้งกำหนดผู้ให้ข่าวที่ชัดเจน
2. ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนและทุกภาคส่วน ถึงความจำเป็นในการปฏิบัติการเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยให้ประชาชนอยู่ในที่พำนัก ไม่เคลื่อนย้าย เดินทาง อีกทั้งมอบหมายภารกิจหน้าที่แก่ส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ปกครองท้องที่ ถึงภารกิจและแนวทางการปฏิบัติงาน ตลอดจนกำหนดแผนเผชิญเหตุและซักซ้อมแนวทางการปฏิบัติให้มีความเข้าใจร่วมกัน
3. วางมาตรการควบคุมการกักตุนสินค้า โดยเชิญประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง หากพบการกระทำความผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัด
4. วางแผนจัดระบบการขนส่งสินค้า เครื่องอุปโภคบริโภค สิ่งของจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน มีการกำหนดจุดบริการอาหาร เครื่องดื่ม เพื่อดูแลประชาชนถึงระดับหมู่บ้าน ชุมชนให้ชัดเจน และกำหนดในแผนปฏิบัติการ
นายฉัตรชัย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่จังหวัด ให้ดำเนินการบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนในการปฏิบัติการยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไสรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อสวัสดิภาพ และชีวิตของพี่น้องประชาชนทุกคน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไทยติดเชื้อเพิ่ม 102 คน ป่วยในกรุงเทพฯ แตะ 1,000 คน
ยันต้องสำรอง “ฟาวิพิราเวียร์” ถึงล้านเม็ด วอนอยู่บ้านลดผู้ติดเชื้อ