วันนี้(3เม.ย.63)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการจัดกำลังทหารเข้าเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ตามการประกาศเคอร์ฟิว จะไม่ใช้กำลังรบหลักเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ แต่จะใช้กำลังสารวัตรทหาร ทำงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จัดเป็น บก. ควบคุม ดูแล 7 โซน ใช้หน่วยในพื้นที่เป็นหลัก โดยสารวัตรทหาร(สห.)เข้าปฎิบัติหน้าที่ในพื้นที่ต่างๆ ภายใต้บก.ควบคุมที่รับผิดชอบใน กทม. ได้แก่ กองพลทหารราบที่1 รักษาพระองค์(พล.1รอ.) กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์(พล.ม2รอ.) มณฑลทหารบกที่11 (มทบ.11) โดยจัดกำลังจาก กองร้อย สห. หรือ กองพัน สห. ร่วมจุดตรวจในเส้นทางคมนาคมที่สำคัญ เช่น สถานีรถไฟฟ้า สถานีขนส่ง พร้อมทั้ง จัดสายตรวจเคลื่อนที่ในการลาดตระเวนดูแลความสงบเรียบร้อย ประกอบกำลังชุดละ4-5 นายใช้มอเตอร์ไซต์เป็นยานพาหนะ
สำหรับพื้นที่ปริมณฑล กองทัพบกตั้งเป็น บก.ควบคุม 4 โซน ได้แก่ หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ (นปอ. )ดูแลพื้นที่ จ.นนทบุรี จ.ปทุมธานี กองพลทหารราบที่ 11 (พล.ร.11)รับผิดชอบพื้นที่ จ.สมุทรปราการ กรมการสัตว์ทหารบก รับผิดชอบพื้นที่ จ.นครปฐม กรมสื่อสารทหารที่1 จ.สมุทรสาคร โดยกำลังที่ใช้ในการปฎิบัติหน้าที่จะเป็นกำลังพลที่รับการฝึก ปฏิบัติเหมือนสารวัตรทหาร ไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลังนอกพื้นที่ และจะเป็นภาพของการสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองในการดูแลความเรียบร้อยตามข้อกำหนดตาม พ.ร.บ. บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ. ควบคุมโรคติดต่อ แต่หากต้องการกำลังสนับสนุนเพิ่มก็จะมีการจัดกำลังส่วนอื่นเข้าไปเพิ่มเติม
สำหรับใน จังหวัดต่างๆ สารวัตรทหารจากมณฑลทหารบกจะรับผิดชอบในพื้นที่เขตเมือง เส้นทางคมนาคมต่างๆ ในขณะที่เขตอำเภอจะเป็นหน้าที่ของตำรวจ ตั้งด่านตรวจดูการเข้าออกระหว่างอำเภอ ส่วนตำบล หมู่บ้าน เป็นความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง
เช่นเดียวกับเหล่าทัพอื่น กองทัพเรือรับผิดชอบในพื้นที่ จ.ระยอง จ. จันทบุรี จ. ตราด กองทัพอากาศ รับผิดชอบเขตดอนเมือง เป็นต้น