วันนี้ (3 เม.ย.2563) นายธัชกร หัตถาธยากูร ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ แถลงข่าวร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังจับกุมผู้ฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.บุรีรัมย์ จำนวน 2 คน โดยคนแรกเป็นชายอายุ 51 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้าน ต.หินลาด อ.บ้านกรวด โดยได้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อฯ , พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากมีพฤติกรรมขับขี่รถจักรยานยนต์ด้วยอาการมึนเมา ฝ่าจุดคัดกรองเข้าไปในหมู่บ้านที่ถูกประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมโรคติดต่อ ตามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.บุรีรัมย์
ส่วนคนที่ 2 ชายอายุ 48 ปี ชาวบ้านหมื่นพิทักษ์ ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งกลับจากไปทำงานต่างจังหวัดมาอยู่ที่บ้าน แต่ไม่ยอมกักตัวเองที่บ้านตามคำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อฯ โดยได้ขับรถออกไปตามสถานที่ต่างๆ เจ้าหน้าที่ได้ออกหนังสือตักเตือนแล้ว 1 ครั้ง แต่ไม่เชื่อฟังและยังฝ่าฝืนออกไปข้างนอก เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบ COVID-19 ประจำอำเภอจึงเข้าจับกุมตัว
ทั้งนี้ ผู้กระทำผิดทั้ง 2 คนจะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อฯ เบื้องต้นจะให้พนักงานสอบสวนทำการแจ้งข้อกล่าวหา และจะส่งตัวไปกักไว้ที่สถานกักกันตัวผู้ฝ่าฝืนที่สนามแข่งรถของเอกชน ก่อนส่งฟ้องศาลดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ ยังย้ำเตือนให้ประชาชนได้ปฏิบัติตามคำสั่งหรือประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อฯ อย่างเคร่งครัด หากใครยังมีพฤติกรรมฝ่าฝืนจะถูกจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยไม่มีการละเว้น เพื่อเป็นการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 เพราะขณะนี้ จ.บุรีรัมย์ พบผู้ติดเชื้อแล้ว 13 คน
ด้าน พ.ต.อ.รุทธพล เนาวรัตน์ รองผู้บังคับการภูธร จ.บุรีรัมย์ ระบุว่า จ.บุรีรัมย์ ได้แต่งตั้งชุดปฏิบัติการปราบ COVID-19 หรือ EOC ทั้งระดับจังหวัดและอำเภอทุกอำเภอ ซึ่งเป็นชุดเคลื่อนที่เร็วสำหรับออกปฏิบัติการจับกุมผู้ฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติคำสั่งหรือประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อฯ โดยชุดปราบ COVID-19 ดังกล่าวจะมีเครื่องมืออุปกรณ์ในการป้องกัน ทั้งชุดที่สวมใส่อย่างรัดกุมและอุปกรณ์ เช่น ไม้ง่าม เพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่หลีกเลี่ยงการสัมผัส พร้อมทั้งเตือนผู้ที่คิดจะฝ่าฝืนจะถูกจับดำเนินคดีตามกฎหมายทุกคน
หมู่บ้านถูกสั่งปิด จ.เชียงราย ให้ความร่วมมือดี
หลังจากคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย สั่งปิดหมู่บ้านใน ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย และตั้งศูนย์ระดับอำเภอ เพื่อเฝ้าระวังห้ามบุคคลเข้า-ออกในพื้นที่ ซึ่งชาวบ้านให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
หมู่บ้านดังกล่าวมีชาวบ้านอยู่อาศัยประมาณ 800 คน เจ้าหน้าที่ยังให้สามารถออกนอกหมู่บ้านได้ แต่ต้องลงชื่อเข้า-ออกในพื้นที่ ยกเว้นกลุ่มเสี่ยงที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย 37 คนที่ให้กักตัวอยู่ที่บ้านเพื่อเฝ้าระวังโรค โดยระหว่างที่กักตัวในบ้านจะมีคณะกรรมการหมู่บ้านนำอาหาร เครื่องอุปโภคบริโภคไปให้ ซึ่งชาวบ้านที่กักตัวให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข โรงพยายบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และ อสม.เป็นอย่างดี
ขณะที่สุขสภาพจิตของชาวบ้านหลังพบผู้ติด COVID-19 จำนวน 3 คน ซึ่งในช่วงแรกหน่วยงานด้านปกครองอำเภอแม่จัน ระบุว่า ชาวบ้านตระหนกกับการระบาดของโรค แต่หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง หน่วยงานด้านสาธารณสุขมาให้ความรู้ พร้อมกับให้ช่วยกันป้องกันและเฝ้าระวัง ทำให้ชาวบ้านให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะหวั่นว่าจะเกิดการแพร่ระบาดไปทั้งหมู่บ้านและพื้นที่อื่นๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตายเพิ่ม 4 คนโยงกลุ่มสนามมวย-15 จังหวัดยังรอด COVID-19
“วิษณุ” เผยอาจขยายเวลาเคอร์ฟิว หากตรึง 6 ชม. ไม่ได้ผล
เริ่มวันนี้ ! "นครชัยแอร์" หยุดเดินรถทุกเส้นทางทั่วประเทศไม่มีกำหนด
8 วิธีลดความเสี่ยงติดเชื้อก่อโรค COVID-19