วันนี้ (3 เม.ย.2563) พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงรายละเอียดแนวทางการปฏิบัติงาน เพื่อเตรียมความพร้อมข้อกำหนดห้ามออกนอกเคหะสถานทั่วประเทศ ตั้งแต่เวลา 22.00 - 04.00 น. ตามประกาศเพิ่มเติม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้คืนแรกวันนี้ ยืนยัน ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีอย่างจริงจัง ไม่มีข้อยกเว้น แต่ในช่วง 1-2 วันแรก จะเน้นประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจสำหรับผู้ที่มีความจำเป็น เช่น ผู้ที่ทำงานเป็นกะ หรือ เลิกงานในเวลาประกาศเคอร์ฟิว ขอให้พกพาบัตรประชาชน และหนังสือรับรองจากนายจ้าง ระบุถึงเหตุผลความจำเป็น และเบอร์โทรศัพท์หน่วยงานต้นสังกัด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะพิจารณาเป็นกรณีไป แต่ในส่วนของผู้ที่จงใจฝ่าฝืน และไม่มีเหตุอันควรออกนอกเคหะสถาน จะต้องมีโทษจำคุก 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนแผนการทำงานของตำรวจในช่วงประกาศเคอร์ฟิว มีการปรับเปลี่ยน โดยเพิ่มจุดตรวจทั่วประเทศมากขึ้น โดยจะทำงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และสารวัตรทหาร โดยในส่วนของตำรวจ จะเพิ่มกำลังสายตรวจ ออกตรวจตราอาชญากรรมมากขึ้น
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังขอความร่วมมือประชาชน ช่วยกันเพื่อลดการแพร่ระบาด ด้วยการบริหารจัดการเวลาการทำงานหรือเวลาส่วนตัว ให้สอดคล้องกับแนวทางบังคับใช้กฏหมาย โดยเชื่อว่า ระยะแรกอาจมีปัญหาบ้าง แต่ขอให้เข้าใจเจตนาการบังคับใช้กฎหมาย เพราะต้องการแก้ปัญหาการระบาดของโรคโดยเร็วที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตายเพิ่ม 4 คนโยงกลุ่มสนามมวย-15 จังหวัดยังรอด COVID-19
ทั่วโลกติดเชื้อ COVID-19 มากกว่า 1 ล้านคน สูงสุด "สหรัฐอเมริกา"
วัดผล พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สยบ COVID-19