กรณีที่มีผู้โดยสารเสียชีวิต บนขบวนรถพิเศษทักษิณที่ 37 (กรุงเทพ – หาดใหญ่)เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างขบวนรถจอดที่สถานีทับ สะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยท้องถิ่นทำการช่วยเหลือ และปรากฏว่าผู้โดยสารได้เสียชีวิต
วันนี้ (1 เม.ย.2563) นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่ามีผู้โดยสาร ถือตั๋วโดยสารรถนอนปรับอากาศชั้นที่ 2 ขบวนด่วนพิเศษทักษิณที่ 37 วันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา คันที่ 4 เลขที่ 28 เดินทางจากสถานีชุมทางบางซื่อ-สุไหงโก-ลก เสียชีวิตบนขบวนรถ ซึ่งจากการนำศพชันสูตรที่โรงพยาบาลทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ และเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้รับจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทับสะแกว่า ผู้โดยสารเสียชีวิตด้วยโรคเบาหวาน แต่ได้นำสารคัดหลั่งของผู้เสียชีวิตส่งตรวจ COVID-19
ล่าสุดวันนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลามีหนังสือ แจ้งว่าผู้โดยสารเดินทางกับขบวนรถด่วนพิเศษที่เสียชีวิต เป็นผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019
ภาพ:การรถไฟแห่งประเทศไทย
ภาพ:การรถไฟแห่งประเทศไทย
เบื้องต้น การรถไฟฯ ได้ดำเนินการตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข โดยร่วมกับนายอำเภอ และสาธารณสุขอำเภอทับสะแก ทำความสะอาดและพ่นยาฆ่าเชื้อภายในรถโดยสารคันดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค และพักรถโดยสารคันดังกล่าวอบยาก่อนทำความสะอาด และพ่นยาฆ่าเชื้อโรคครั้งที่ 2 อีกครั้งก่อนออกให้บริการ
นอกจากนี้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคโดยการแจ้งรายชื่อผู้โดยสารร่วมในรถคันดังกล่าว จำนวน 15 คน ให้สาธารณสุขจังหวัดสงขลาติดตามทั้งหมด รวมทั้งกักตัวพนักงานที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้เสียชีวิต ได้แก่ พนักงานสถานีรถไฟชุมทาง บางซื่อจำนวน 2 นาย พนักงานรักษาความปลอดภัยของเอกชนจำนวน 1 นาย พนักงานขบวนรถจำนวน 7 นาย ตำรวจรถไฟประจำขบวน 1 นาย ทำความสะอาดฆ่าเชื้อที่สถานีชุมทางบางซื่อ และสถานีทับสะแก เรียบร้อยแล้ว
ไทม์ไลน์ชายกลับจากปากีสถานเสียชีวิตบนรถไฟ
ทั้งนี้การรถไฟ ได้สรุปการสอบสวนเบื้องต้น ดังนี้
- ตรวจพบหลักฐานใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาล ประเทศปากีสถาน ออกเมื่อวันที่ 26 มี.ค.63 เวลา 18.13 น. เวลาท้องถิ่นว่าสามารถเดินทางโดยเครื่องบิน
- ผู้โดยสารเข้าซื้อตั๋วโดยสารดังกล่าวในวันที่ 29 มี.ค.เวลา 10.27 น. ที่สถานีชุมทางบางซื่อ เพื่อที่จะเดินทางในวันที่ 30 มี.ค.
- 30 มี.ค.ผู้โดยสารขึ้นรถไฟตามตั๋วโดยสารที่สถานีบางซื่อ ขณะเดินทางมีอาการไอ และอาเจียน เมื่อขบวนรถถึงสถานีหัวหิน เจ้าหน้าที่สถานีหัวหินนำเจ้าหน้าที่จุดคัดกรองของเทศบาลหัวหินขึ้นตรวจสอบผู้โดยสารบนขบวนรถ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายได้ 36 องศาเซลเซียส ไม่มีอาการไอหรืออาเจียนแล้ว และแนะนำให้ผู้โดยสารลงพักรักษาตัวที่สถานีหัวหิน แต่ผู้โดยสารยืนยันจะเดินทางต่อ
- เวลา 22.15 น. เจ้าหน้าที่บนขบวนรถพบผู้โดยสารดังกล่าว ล้มนอนอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ จึงแจ้งและหยุดขบวนรถที่สถานีทับสะแก เจ้าหน้าที่สถานีทับสะแกแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยท้องถิ่นขึ้นทำการช่วยเหลือ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยท้องถิ่นว่าผู้โดยสารเสียชีวิตแล้ว
- เจ้าหน้าที่ปลดจึงทำการปลดรถโดยสารคันดังกล่าวออกจากขบวนที่สถานีทับสะแก และย้ายผู้โดยสารจำนวน 15 คน โดยสารกับตู้อื่น เพื่อรอพนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย เจ้าหน้าที่ทำการชันสูตรพลิกศพแล้วนำศพส่งชันสูตรหาสาเหตุการตายที่โรงพยาบาลทับสะแก
- 31 มี.ค. ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทับสะแกว่าผู้โดยสารเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว เบาหวาน แต่ได้นำสารคัดหลั่งของผู้เสียชีวิตส่งตรวจ COVID-19
- การรถไฟฯ ได้ร่วมกับนายอำเภอ และสาธารณสุขอำเภอทับสะแก ทำการพ่นยาฆ่าเชื้อภายในรถโดยสารคันดังกล่าว
ภาพ:การรถไฟแห่งประเทศไทย
ภาพ:การรถไฟแห่งประเทศไทย
คัดกรองเข้มผู้โดยสารกลุ่มเสี่ยง
สำหรับมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น การรถไฟฯ ได้มีการคัดกรองการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนใช้บริการที่สถานีรถไฟทุกครั้ง หากพบอุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ขอให้ผู้โดยสารหลีกเลี่ยงการเดินทาง หากจําเป็นต้องเดินทางขอให้มีใบรับรองแพทย์แสดง และกรอกแบบประเมินและรับรองตนเองเพื่อคัดกรองและยืนยันตนก่อนการเดินทาง นอกจากนี้ ได้ข้อความร่วมมือในกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ เช่น ผู้ใช้บริการที่มีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป กลุ่มคนที่มีโรคประจําตัว และกลุ่มเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปีลงมา ควรงดการเดินทาง เว้นแต่บุคคลกลุ่มดังกล่าวมีความจําเป็นตามข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการใน สถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ลงวันที่ 25 มี.ค.63
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
รฟท.ระบุชายสิ้นใจบนรถไฟติด COVID-19 รอผลยืนยันอีกครั้ง