วันนี้ (30 มี.ค.2563) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขยายมาตรการควบคุมการระบาดไวรัส COVID-19 ทั่วประเทศ ที่จะสิ้นสุดในวันนี้ ออกไปจนถึงวันที่ 30 เม.ย.นี้ รวมทั้งการเว้นระยะห่างทางสังคม หลังสถานการณ์การระบาดในหลายพื้นที่ของประเทศยังวิกฤต ตัวเลขผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อยังพุ่งไม่หยุด
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ยังยอมรับเป็นนัยว่ามองโลกในแง่ดีเกินไป หลังแสดงความต้องการที่จะผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค ในพื้นที่ที่การระบาดไม่รุนแรง พร้อมระบุว่าอัตราการเสียชีวิตอาจพุ่งสูงสุดภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์ นับจากนี้ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่ต้องขยาย มาตรการควบคุมโรคออกไปอีก
สถานการณ์การระบาดในสหรัฐฯ วิกฤตขึ้นทุกขณะ ล่าสุดวันนี้ 30 มี.ค.63 เวลา 10.40 น. ยอดผู้ติดเชื้อทั่วประเทศอยู่ที่ 142,356 คน สูงที่สุดในโลก และมีผู้เสียชีวิต 2,493 คน โดยนครนิวยอร์กเป็นศูนย์กลางการระบาด
ขณะที่นายแพทย์แอนโทนี ฟอซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อและหัวหน้าทีมเฉพาะกิจ รับมือไวรัส COVID-19 ของรัฐบาลสหรัฐฯ เตือนว่า ไวรัส COVID-19 อาจคร่าชีวิตชาวอเมริกัน 100,000 - 200,000 คน และมีผู้ติดเชื้อหลายล้านคน
คำประกาศของทรัมป์มีขึ้นในขณะที่นายบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก เตือนชาวเมืองที่ละเมิดมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมจะถูกปรับระหว่าง 250 ดอลาร์ หรือประมาณ 8,100 บาท ถึง 500 ดอลลาร์ หรือประมาณ 16,200 บาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ฝรั่งเศส" ยอดติดเชื้อ COVID สะสมกว่า 40,700 คน
ชายอิตาลีวัย 101 ปี หายป่วยจาก COVID-19
ผู้นำสหรัฐฯ จ่อใช้มาตรการกักบริเวณในรัฐ "นิวยอร์ก"
อิตาลีเสียชีวิต COVID-19 แตะ 1 หมื่นคน - สเปน 5.9 พันคน