วันนี้ (30 มี.ค.2563) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส สรุปสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ในฝรั่งเศส โดยเมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 2,599 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 40,174 คน ขณะเดียวกันมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 292 คน รวมยอดผู้เสียชีวิต 2,606 คน
อธิบดีกรมสาธารณสุขฝรั่งเศส ระบุว่า ฝรั่งเศสได้สั่งซื้อหน้ากากอนามัย จำนวน 1,000 ล้านชิ้นจากจีน ซึ่งจะมีการจัดส่งมายังฝรั่งเศสสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 14 สัปดาห์ โดยจะได้รับล็อตแรกในวันพรุ่งนี้ (31 มี.ค.) ขณะที่ภาคเอกชนก็ได้สั่งซื้อหน้ากากอนามัยเช่นกัน โดยมีหน้ากากอนามัยจำนวน 5 ล้านชิ้นมาถึงฝรั่งเศสแล้วในวันนี้
เพิ่มค่าปรับคนฝ่าฝืนออกจากที่พัก-ชุมนุม
รัฐบาลฝรั่งเศสได้เพิ่มอัตราค่าปรับ กรณีฝ่าฝืนมาตรการห้ามออกจากที่พัก หรือการห้ามชุมนุมมากกว่า 100 คน จากเดิม 135-375 ยูโร เป็น 200-450 ยูโร โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค.เป็นต้นไป ขณะเดียวกันมีหลายบริษัทได้ใช้มาตรการพักงานพนักงานโดยยังคงให้เงินเดือน
ส่วนการปิดให้บริการของสนามบิน Orly จะปิดให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์ ตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.2563 เวลา 23.30 น. โดยยังไม่มีกำหนดเปิดให้บริการอีกครั้ง และสายการบินที่ยังให้บริการอยู่จะย้ายไปใช้สนามบินชาร์ล เดอโกล (CDG) แทน แต่ยังคงเปิดให้เครื่องบินของประเทศต่างๆ ที่ต้องปฏิบัติภารกิจทางสาธารณสุขเข้าใช้บริการได้ ซึ่งก่อนหน้านี้มีเที่ยวบินที่สนามบิน Orly ลดลงถึงร้อยละ 90