วันนี้ (26 มี.ค.2563) เฟซบุ๊ก กรมการแพทย์ เผยแพร่ข้อความ ระบุว่า พญ.สายจินต์ อิสีประดิฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์(วัดไร่ขิง) ระบุว่า โรควรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ มีอาการเหมือนไข้หวัดใหญ่มีการศึกษาวิจัยในประเทศจีน พบว่าผู้ป่วยที่ติดเชื้อ COVID-19 จะมีอาการตาแดงร่วมด้วยประมาณ 0.8 % เท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีรายงานการตรวจพบเชื้อไวรัสนี้ในน้ำตาและสารคัดหลั่งเยื่อบุตาอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันเชื้อไวรัสนี้สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้ โดยได้รับสารคัดหลั่ง เช่นน้ำมูก น้ำลาย ที่มีเชื้อโรคผ่านทางระบบทางเดินหายใจ
ขณะที่ พญ.ดวงดาว ทัศณรงค์ จักษุแพทย์เชี่ยวชาญโรงพยาบาลเมตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) ระบุว่า เนื่องจากดวงตามีทางติดต่อกับโพรงจมูกโดยมีการระบายน้ำตาและสารคัดหลั่งเยื่อบุตาผ่านท่อระบายน้ำตาเข้าสู่โพรงจมูก ดังนั้น ถ้าได้รับเชื้อเข้าสู่ดวงตาในปริมาณที่มากพอ เช่น ถูกไอหรือจามใส่หน้าโดยตรงและมีสารคัดหลั่งที่มีเชื้อไวรัสชนิดนี้เข้าสู่ดวงตา ก็อาจจะมีความเป็นไปได้ที่ สารคัดหลั่งเหล่านี้จะถูกระบายเข้าสู่โพรงจมูก
ทั้งนี้ โดยทั่วไปแล้ว ไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคCOVID-19 ไม่สามารถลอยอยู่ในอากาศได้ด้วยตัวมันเอง แต่จะอยู่ในน้ำมูกหรือน้ำลายของผู้ป่วยที่ถูกไอหรือจามออกมา ดังนั้น ถ้าอยู่ในสิ่งแวดล้อมปกติโดยทั่วไป โอกาสที่จะมีไวรัสลอยเข้ามาสู่ดวงตา และระบายเข้าสู่เยื่อบุโพรงจมูกนั้นเป็นไปได้ต่ำมาก และปัจจุบัน ยังไม่มีรายงานการติดเชื้อผ่านทางดวงตา
ส่วนการติดเชื้อจากการได้รับเชื้อจากน้ำตาหรือสารคัดหลั่งเยื่อบุตาของผู้ป่วยนั้น เนื่องจากมีรายงานการพบเชื้อ COVID-19 ในน้ำตาและสารคัดหลั่งเยื่อบุตา ดังนั้น ถ้ามีการสัมผัสของสารคัดหลั่งดังกล่าวจากตาผู้ติดเชื้อ และนำเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ก็อาจมีโอกาสที่จะติดเชื้อได้ ถ้าในสารคัดหลั่งดังกล่าวมีเชื้อไวรัสชนิดนี้อยู่