วานนี้ (26 มี.ค.2563) นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ โพสต์เฟซบุ๊กไกรสร กองฉลาดว่า อีกรายแล้วครับ ผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 จ.สุรินทร์ คนที่ 5 รายนี้เป็นหญิง อายุ 19 ทำงานร้านสปาที่พัทยา จ.ชลบุรี สัมผัสผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 เพศชาย สัญชาติสวีเดน ป่วยมาจากจากพัทยา ชลบุรี กลับมาบ้าน เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสุรินทร์
ตรวจสอบไทม์ไลน์การเดินทางของผู้ป่วยรายนี้แล้ว ขอความร่วมมือท่านที่โดยสารรถประจำทางนครชัยแอร์ First Class 30 ที่นั่ง สายระยอง-สุรินทร์ (เที่ยว 8424 ) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 มี.ค.2563 ออกจากพัทยา 21.10 น ถึงสุรินทร์ เวลา 04.30 น.วันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา ขอให้ไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ณ สถานพยาบาลใกล้บ้านทันที และด่วนที่สุดครับ
ชี้มีผู้เข้าข่ายเสี่ยงติดเชื้อ-รายงานตัว-กักตัว
นอกจากนี้ นายไกรสร ยังระบุเพิ่มเติมในเฟซบุ๊กว่า ในสถานการณ์ อย่างนี้ อยากเรียนพี่น้องสุรินทร์ว่า ข้อมูลที่ให้ไปนั้น เป็นข้อมูลที่เราวิเคราะห์ ใคร่ควรรอบด้านแล้วว่า เมื่อบอกไปแล้วเป็นประโยชน์สูงสุด แต่ข้อมูลบางอย่างที่เราไม่บอก เช่นชื่อ นามสกุล คนป่วยอันนี้บอกไม่ได้ครับ เขาไม่ได้ทำความผิดนะครับ สถานที่ที่เข้าไปทุกแห่ง บางแห่งถ้ากระทบคนในวงกว้าง ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ต้องการให้คนที่อยู่ตรงนั้น ช่วงเวลานั้นที่เป็นกลุ่มเสี่ยงได้รับทราบและมารายงานตัว อันนี้เราจะบอกครับ
กรณีที่เราไม่บอก เพราะวิเคราะห์แล้ว มีคนเข้าข่ายเป็นผู้เสี่ยงสัมผัสโรคจำกัด เรารู้ตัวหมดแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องบอก เพราะรู้ไปก็ไม่มีประโยชน์กับการควบคุมโรค แถมจะมีผลกระทบตามมาวุ่นวาย ไปหมด การรังเกียจ การทุ่มเถียงวุ่นวายไปหมด บ้านเรานักทฤษฎีตีตรามันเยอะครับ เช่นลือว่าใครเป็นปอบ เดือดร้อนไปทั่งครอบครัวครับ ไม่มีใครคบหาสมาคม เผลอ ๆ รวมตัวขับไล่ออกนอกหมู่บ้าน ฯลฯ อย่าลืมครับหน้าที่ของทางราชการนอกเหนือไปจากการควบคุมโรค คือการบริหารความรู้สึกของชาวบ้านครับ รู้เฉพาะที่เป็นประโยชน์ครับ รู้มากไปจิตตกป่าว ๆ ครับ ด้วยความเคารพครับ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เช็กพิกัดทิ้งหน้ากากอนามัย หลังใช้วันละ 2 ล้านชิ้น
ผู้ป่วย COVID-19 หนีออกจาก รพ.กระบี่ ตามจับตัวได้ที่ บขส.