วันนี้ (19 มี.ค.2563) อิตาลีเผชิญสถานการณ์แพร่ระบาด COVID-19 เป็นสัปดาห์ที่ 4 แม้รัฐบาลจะใช้มาตรการปิดประเทศซึ่งเป็นยาแรงที่สุดในการต่อสู้กับไวรัส แต่ก็ยังไม่สามารถชะลอการระบาดได้ ทำให้เกิดคำถามตามมาว่ามาตรการนี้จะได้ผลและคุ้มค่ากับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นหรือไม่
ขณะที่หนึ่งในแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของอิตาลี เปิดเผยกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ว่า หวังจะเห็นสัญญานแรกของการเปลี่ยนแปลง หลังผ่านพ้นมาตรการปิดเมืองทั่วประเทศมาได้เกือบ 10 วัน แต่นอกจากจะไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงแล้ว ตัวเลขผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อยังพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวานนี้ (18 มี.ค.) ตัวเลขผู้เสียชีวิตในอิตาลีพุ่งสูงถึง 475 คน สูงสุดนับตั้งแต่เกิดการระบาด ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 2,978 คน โดยแคว้นลอมบาร์ดี ทางภาคเหนือ เป็นที่ที่มีการระบาดหนักที่สุด ส่วนยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 35,713 คน
ขณะที่อังกฤษ เป็นอีกประเทศที่กำลังมีการถกเถียงกันเรื่องมาตรการปิดเมือง ล่าสุดนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวตอบคำถามผู้สื่อข่าวประเด็นจะมีการปิดกรุงลอนดอนหรือไม่ ว่า รัฐบาลกำลังพิจารณา ในทุกเรื่องและจะดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเมื่อถึงเวลา
ทั้งนี้ แม้ว่ารัฐบาลอังกฤษแนะนำประชาชนให้หลีกเลี่ยงการไปสถานบันเทิง ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ แต่สถานบันเทิงและร้านอาหารในกรุงลอนดอนกลับยังแน่น