ไทยพบป่วยเพิ่ม 35 คน สธ.ย้ำผู้สัมผัสกักตัวลดแพร่เชื้อ

วันนี้ (18 มี.ค.) อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยไทยพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มอีก 35 คน เป็นกลุ่มเกี่ยวข้องกับสนามมวยและสถานบันเทิง เตือนหนุ่ม-สาวที่กลับจากประเทศเสี่ยงกักตัวเอง

วันนี้ (18 มี.ค.2563) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศไทย ว่า พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 35 คน ทำให้ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อสะสม 212 คน กลับบ้านแล้ว 42 คน และเสียชีวิต 1 คน

ผู้ติดเชื้อที่พบเพิ่มแบ่งเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่ม 1 เกี่ยวข้องกับสนามมวย 13 คน ทั้งกรุงเทพฯ ขอนแก่น สมุทรปราการ เชียงใหม่ สุโขทัย นครราชสีมา กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ส่วนสถานบันเทิงย่านทองหล่อ 4 คน และผู้สัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 12 คน ส่วนกลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ 6 คน โดยกลับจากกัมพูชา 1 คน, ทำงานใกล้ชิดผู้สัมผัสต่างชาติ 4 คน คือ พนักงานต้อนรับ บริกร นิติบุคลคลคอนโดฯ รอการสอบสวน 1 คน

ขอให้ผู้ที่เข้าไปยังสนามมวยลุมพินี สนามมวยราชดำเนิน วันที่ 6 มี.ค.63 และสถานบันเทิงในกรุงเทพฯ วันที่ 9-10 มี.ค.63 สังเกตอาการตัวเอง 14 วัน หากมีไข้ ไอ เจ็บคอ ให้ตรวจรักษาที่ รพ. ฟรี สอบถามโทร 1422

นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยอาการหนัก 3 คน คือ 1. ผู้ป่วยที่ จ.สุราษฎร์ธานี เริ่มป่วย 8 มี.ค.63 ปอดอักเสบ และการทำงานของไตผิดปกติ ได้รับยาต้านไวรัสแล้ว 2. ชายชาวเบลเยียม 67 ปี ปอดอับเสบและมีภาวะวิกฤต ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ รักษาที่ จ.เพชรบูรณ์ และ 3. เป็นรายเก่าที่รักษาที่สถาบันบำราศนราดูร ส่วนผู้เดินทางกลับจากอิตาลีและเข้าพักที่อาคารรับรองสัตหีบ จ.ชลบุรี ส่งรักษาที่โรงพยาบาล 6 คน เบื้องต้นไม่พบเชื้อ COVID-19

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค

อธิบดีกรมควบคุมโรค ยังระบุอีกว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นวัยหนุ่มสาว เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงและไม่ได้กักตัวเอง ทำให้คนใกล้ชิดติดเชื้อ พร้อมเตือนว่าผู้สูงอายุและเด็กเล็กมีความเสี่ยงสูง หากสถานการณ์เป็นเช่นนี้อาจจะขยายวงจนควบคุมโรคได้ยากลำบาก จึงขอให้ร่วมมือปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

ขณะที่มาเลเซียมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งมีคนไทยส่วนหนึ่งเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา กระทรวงสาธารณสุขได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มบุคลากรที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ เพิ่มอุปกรณ์เก็บตัวอย่าง เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ป้องกันโรค อีกทั้งได้จัดหอผู้ป่วยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ รองรับกรณีผู้สัมผัสใกล้ชิดจำนวนมาก ขณะนี้มีผู้เดินทางผ่านช่องทางพรมแดนจากมาเลเซีย 89 คน ป่วย 11 คน ตรวจพบเชื้อ COVID-19 จำนวน 2 คน

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.สำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค

ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค ระบุว่า ผู้ป่วยสะสะ 212 คน ในจำนวนนี้เป็นคนไทย 70% ส่วนอีก 30% ส่วนใหญ่เป็นจีน รองลงมาเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และโซนยุโรป

โดยผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องสนามมวย 40 คน ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ และสามารถติดตามผู้ที่อยู่ในต่างจังหวัดทั้งหมด ซึ่งหลังการรับเชื้อจะทยอยป่วยไม่เกิน 1 สัปดาห์ แต่เฝ้าระวัง 14 วัน รวมทั้งการติดต่อกับครอบครัว ขณะที่การสอบสวนโรคขณะนี้กำลังรวบรวมว่าใครเป็นผู้ป่วยคนแรก เพราะมีคนจำนวนมากทั้งชาวไทยและต่างชาติ อีกทั้งยังได้ตัดวงจรแพร่ระบาดในสนามมวย ด้วยการตรวจทุกคนที่มีความเสี่ยงสูง รวมทั้งเฝ้าระวัง 14 วัน ส่วนคนที่ตรวจพบเชื้อส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง

สธ.ขอประชาชนป่วยเลือกรักษาตามสิทธิ

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ระบุว่า ผู้ป่วย COVID-19 เป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน ให้สถานพยาบาลเอกชนร่วมดูแลประชาชนและส่งต่อ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีมติว่า ขอให้ประชาชนเลือกรักษาที่สถานพยาบาลตามสิทธิก่อน หากฉุกเฉินรักษาที่ใดก็ได้ รวมทั้งเอกชน

แต่หากมีประกันสุขภาพ ให้ใช้ประกันก่อน ส่วนที่เหลือรัฐจะสนับสนุน ส่วนผู้ไม่มีประกันสุขภาพให้ใช้กลไกจ่ายคล้ายกับผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต โดยจะหารือจะใช้งบฯ 3 กองทุน หรืองบกลาง ขณะที่ผู้ป่วยต่างชาติไม่สามารถใช้สิทธิฉุกเฉินได้

ขอให้ประชาชนกระจายไปใช้บริการโรงพยาบาลตามสิทธิก่อน หากจำเป็นสามารถเข้าสถานพยาบาลเอกชน หากหลักเกณฑ์ผ่าน ครม.ให้ รพ.เอกชน นำค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้เก็บกับประชาชนมาเบิกจ่ายตามเกณฑ์