ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังสถานการณ์ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) ซึ่งในประเทศไทยผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และอุทัยธานี ได้มีการสั่งปิดเมืองเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสของไวรัสโคโรนา วันนี้ (17 มี.ค.2563) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าเบื้องต้นกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคระบาด โดยมีผู้ว่าฯราชการจังหวัด และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงส่วนปกครองทั้งประ เทศ ยืนยันว่าผู้ว่าฯ มีอำนาจเต็มที่ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด ในการออกมาตรการ เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด สามารถทำได้โดยไม่ต้องปรึกษาใคร แต่มาตรการนี้จะต้องผ่านคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด ที่มีแพทย์และส่วนเกี่ยวข้องหลายหน่วยงานช่วยพิจารณา
คำว่าปิดเมือง คือมีมาตรการคัดกรองคนเข้าเมือง ไม่ให้คนรวมกลุ่มกันจัดกิจกรรม ทำได้ตามกฎหมาย ไม่ต้องมาหารือหรือปรึกษาผม เพราะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดมีอำนาจโดยชอบธรรมอยู่แล้ว
อ่านข่าวเพิ่ม ไทยพบป่วยเพิ่ม 30 คน เตรียมทำแผนที่เสี่ยง COVID-19 ใน กทม.
รับถกปิด กทม.-รอคณะกรรมการควบคุมโรคเสนอ
ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ละจังหวัดประกาศปิดเมือง จะทำให้ไม่เป็นไปในแนวทางเดียวกันหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์แต่ละจังหวัด แต่มีกรอบมาตรการให้ผู้ว่าฯ แต่ละจังหวัดรวมถึง กทม.นำไปปฏิบัติแต่ต้องไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้การปิดจังหวัด ไม่ได้มองว่าเป็นความลักลั่นในการทำงาน แต่ละจังหวัดก็มีแผนการปฏิบัติที่ไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับการแพร่ระบาดของแต่ละพื้นที่
ในความเป็นจริง เป็นการคัดกรองคนเข้าเมือง และมีมาตรการ Social distance คือเพิ่มระยะห่างเข้าสังคม ไม่คนมาร่วมกลุ่ม ตรงตามมาตรการที่จะทำในทางกฎหมายทำได้
รมว.มหาดไทย กล่าวอีกว่า เชื่อว่ามีหลายจังหวัดคิดอยากจะปิดเมือง เพียงแต่ต้องไปหามาตรการรองรับปัญหาจะเกิดขึ้น และส่งผลกระทบต่อประชาชน ส่วนกรณีที่จะห้ามไปถึงการร่วมในกิจกรรมงานบุญ งานบวช เรื่องนี้ต้องรอ ครม.หารือกรอบหลักเกณฑ์ก่อน
ส่วนแนวโน้มการปิด กทม.ให้รอคณะกรรมการควบคุมโรคเสนอมา แต่ยอมรับว่ามีการพูดคุยในประเด็นดังกล่าวนี้อยู่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ ปิดเมือง คัดกรองไข้ทุกคนที่เข้าจังหวัด
รู้จัก "Social distance" เพิ่มระยะห่างเข้าสังคมสู้ COVID-19