วันนี้ (13 มี.ค.2563) น.ส.เสาวลักษณ์ พวงเงิน คนพิการที่นั่งรถวิลแชร์ มากว่า 30 ปี และในนามตัวแทนของคนพิการแห่งประเทศไทย เปิดเผยกับรายการสถานีประชาชน หลังเกิดการระบาดของไวรัส COVID–19 ว่า โรคดังกล่าว กระทบกับคนพิการ เนื่องจากคนพิการมีภูมิต้านทานน้อยจึงมีความเสี่ยงสูงกว่าคนอื่นๆ ในสังคม อีกทั้งการเข้าถึงระบบบริการสุขภาพทุกรูปแบบเป็นไปได้ยาก เพราะความจำกัดของร่างกายและรายได้ที่จะจัดซื้อหน้ากากอนามัย หรือ เจลแอลกอร์ฮอล์ ที่ค่อนข้างขาดแคลนในขณะนี้
แม้ภาครัฐจะแก้ไขปัญหาโดยแจกหน้ากากอนามัยแต่คนพิการไม่ได้รับโอกาสเพราะไม่สามารถไปต่อคิวที่ค่อนยาว จึงอยากให้รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญเร่งหามาตรการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
ขณะที่นางสาวอณิรา ธินนท์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เล็งเห็นความสำคัญและเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการให้บริการและดูแลคนพิการ ซึ่งถือเป็นกลุ่มเปราะบางและมีความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ ได้ง่าย พก. จึงได้ออกมาตรการระยะเร่งด่วน รวมทั้งแผนรองรับสถานการณ์วิกฤต ไวรัส COVID–19 ในการเยียวคนพิการที่ได้รับผลกระทบ ดังนี้
1.ด้านเศษฐกิจ - ส่งเสริมอาชีพ และแนะนำการกู้ยืมเงินประกอบอาชีพ เงินสงเคราะห์ครอบครัว
2.ด้านสังคม – แนะนำการใช้ชีวิตประจำวัน การกลับสู่สังคม
3.ด้านสุขภาพ – แนะนำการรักษาสุขภาพและการเกิดโรคซ้ำ เป็นต้น รวมทั้งทำสื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การป้องกันไวรัส COVID–19 ให้คนพิการทุกประเภท ได้มีความรู้ ความเข้าใจ
นอกจากนี้ รองอธิบดี พก. ลงพื้นที่ชุมชนคลองนาหมอน คลองสิบสอง เขตหนองจอก กทม. เพื่อเยี่ยมคนพิการที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง และนำถุงยังชีพพร้อมแนะนำวิธีการใช้หน้ากากอนามัยที่ถูกต้องให้กับครอบครัวคนพิการเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของ ไวรัสโควิด – 19 ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการของ พก.
สำหรับชุมชนคลองนาหมอน มีประชากรทั้งหมดกว่า 300 คน มีกลุ่มเสี่ยงเป็นคนพิการ ประมาณ 16 คน ผู้สูงอายุกว่า 100 คน ท่านใดมีปัญหาการเข้าถึงสิทธิคนพิการ ติดต่อได้ที่กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ โทร. 02-354-3388 (วันเวลาราชการ)