ความคืบหน้ากรณีโฆษกกรมศุลกากร แถลงเมื่อวานนี้ (11 มี.ค.) ว่า มีการส่งออกหน้ากากอนามัยในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ สูงถึง 330 ตัน คิดเป็นมูลค่า 160 ล้านบาท โดยส่งออกตามใบอนุญาตกรมการค้าภายใน ก่อนจะมีการแก้ข่าวในช่วงค่ำ
วันนี้ (12 มี.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เดินทางไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
นายวิชัย ระบุว่า ข้อมูลดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อน สร้างความเสียหายต่อตนเองและกรมการค้าภายใน จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดี และต้องการให้กรมศุลกากรแสดงความรับผิดชอบเรื่องนี้ พร้อมยืนยันว่า หลังจากมีการประกาศให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุม ตั้งแต่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้ห้ามการส่งออกหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (Surgical mask) หากมีการนำออกเกิน 500 ชิ้น ต้องขออนุญาต ต่อมาได้ห้ามการส่งออกหน้ากากอนามัยทุกรายการ ตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ. - 30 มิ.ย.2563 โดยหลังประกาศได้อนุญาตให้มีการส่งออกเพียง 3 ครั้ง ปริมาณ 12 ล้านชิ้น จากที่ขอส่งออกทั้งหมด 53 ล้านชิ้น เพราะเป็นหน้ากากที่มีลิขสิทธิรับจ้างผลิตเท่านั้น
ขณะที่นายชัยยุทธ คำคุณ โฆษกกรมศุลกากร ชี้แจงว่า มีความคลาดเคลื่อนในการนำเสนอข้อมูลการส่งออกหน้ากากอนามัย เนื่องจากพิกัดสินค้า รหัส 6307 เป็นหมวดใหญ่ของสินค้านับพันรายการ ในจำนวนนี้มีหน้ากากอนามัยรวมอยู่ด้วย ยอดการส่งออก 330 ตัน ยังไม่ได้แยกน้ำหนักของหน้ากากอนามัย ส่วนสาเหตุที่มีความคลาดเคลื่อน เนื่องจากไม่ใช่ข้อมูลที่เตรียมใช้ในการแถลงข่าว แต่สื่อมวลชนซักถามเพิ่มเติม จึงให้เจ้าหน้าที่รวบรวมให้ ซึ่งต่อมาได้ออกแถลงข่าวแก้ไขทันที พร้อมยืนยันว่าการแถลงเมื่อวานนี้ ไม่ได้มาจากแรงกดดันทางการเมืองแต่อย่างใด ส่วนกรณีอธิบดีกรมการค้าภายใน แจ้งความดำเนินคดี เข้าใจว่าอาจรู้สึกโมโหที่มีความผิดพลาดของข้อมูลและทำให้เสียหาย ส่วนตัวยังไม่ได้พูดคุยกับอธิบดีกรมการค้าภายใน แต่คงได้ทำความเข้าใจให้ตรงกันอีกครั้ง