วันนี้ (5 มี.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 15.00 น. ทีมแพทย์และสาธารณสุขในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก ได้แก่ ชลบุรี, สมุทรปราการ, ตราด, จันทบุรี, ระยอง, สระแก้ว, ปราจีนบุรี และฉะเชิงเทรา จะประชุมร่วมกันที่สำนักงานสาธารณสุข จ.สมุทรปราการ เพื่อรับมือสถานการณ์การะบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หลังจากเมื่อวานนี้ (4 มี.ค.) วงประชุมของกระทรวงสาธารณสุข ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน ได้กำชับให้เข้มงวดต่อการคัดกรองพื้นที่ภาคตะวันออก
8 จังหวัดตะวันออก "พื้นที่เปราะบาง"
ส่วนสาเหตุที่ต้องมีการคัดกรองอย่างเข้มงวดในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก เนื่องจากเป็นพื้นที่เปราะบางในช่วงสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ซึ่งมีด่านชายแดน 2 แห่ง ทั้งที่ จ.ตราด และ จ.สระแก้ว มีทั้งด่านถาวร ด่านไม่ถาวร และเส้นทางธรรมชาติ ซึ่งที่ผ่านมา ทีมแพทย์ทำงานระบบคัดกรองกันหนักมาก ต้องดึงตำรวจ ตชด. และ สธ.ท้องถิ่นมาช่วยเพิ่มคัดกรองและลาดตระเวน ช่วง COVID-19 ระบาด มีผู้ผ่านข้ามแดนกว่า 500,000 คน ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.2563 แต่ยังไม่มีพบการส่งตัวรักษาฝั่งไทย เพราะทีมแพทย์ชายแดนใช้วิธีหากตรวจพบผู้ผ่านข้ามแดนมีไข้ จะไม่ให้ข้ามแดนเป็นหลัก
นอกจากนี้ ยังมีสนามบินนานาชาติ 2 แห่ง ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ และสนามบินอู่ตะเภา จ.ระยอง และมีท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ที่มีเรือต่างชาติเข้าจอดและเรือสำราญเข้าจอดประมาณ 100 ลำเป็นประจำทุกปี และยังมีกลุ่มแรงงานข้ามชาติทำงานมากที่ จ.สมุทรปราการ และมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี
สธ.เขต 6 เคยดูแลกลุ่มคนไทยจากอู่ฮั่น
ทั้งนี้ พื้นที่ทั้งหมดอยู่ในการคุมเข้มของ สธ.เขต 6 ที่มี นพ.พรเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับผิดชอบหลัก และวางแผนงานเข้มกันมาตั้งแต่ช่วงที่ COVID-19 เริ่มแพร่ระบาด ซึ่งที่ผ่านมา สธ.เขต 6 เคยมีประสบการณ์มาแล้ว สำหรับการดูแลกลุ่มคนไทยจากอู่ฮั่น 138 คน ที่ สัตหีบ จ.ชลบุรี ระหว่างวันที่ 4-18 ก.พ.2563 และการเตรียมความพร้อมช่วงที่มีกระแสข่าวว่าเรือสำราญ "เวสเตอร์ดัม" เตรียมขอเข้าจอดที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี