เมื่อการประชุมจะจบ แต่ความไม่สงบ “บังเกิด”
เวลาฝ่ายค้านบริหารไม่ดี เหลือ 1 นาทีกว่าๆ จะใช้ประท้วงยังไม่พอ! จึงต้องต่อรองกันใหม่
เรื่อง “เวลา” สำคัญไฉน ขั้น “ชวน หลีกภัย” ประธานสภาฯ เบอร์ 1 ต้องลงบัลลังก์เคลียร์ด้วยตนเอง
ทวนข้อตกลงเดิม คือ วิปฝ่ายค้าน-วิปรัฐบาล จะขอจบใน 1 ทุ่ม แต่พออภิปรายใกล้ถึง 6 โมงเย็น
ฝ่ายค้านเหลือ 1 นาทีกว่าๆ รัฐบาลเหลือ 1 ชั่วโมงกว่าๆ
หลังพักเคารพธงชาติ-พักการประชุม ส.ส.ได้พักหายใจหายคอ “ดื่มน้ำให้เย็นใจ” ตามคำเปรยของ สุชาติ ตันเจริญ ประธานการประชุมฯ
สรุป-แต่ไม่สะเด็ดน้ำ เบื้องหลังเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่ผลออกมา ฝ่ายค้านเกม! หมดเวลาอภิปราย
เหลือเฉพาะเวลา “อภิปรายปิด” โควตาของ สุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ส่วนรัฐบาลยังเหลือเวลาแจง 1 ชั่วโมงกว่าๆ และยังมีเวลาเหลืออภิปรายปิด (อยู่ที่จะเลือกใช้สบายๆ)
ประธานวิปฝ่ายค้านชิงออกตัว "ถ้า ส.ส.ไม่ได้อภิปรายครบ ก็สรุปการอภิปรายไม่ได้" เรียกง่ายๆ ว่าไม่ยอม “อภิปรายปิด” เพื่อส่งสัญญาณว่าการอภิปรายครั้งนี้ไม่ชอบธรรม
"เมื่อเวลาให้กันไม่ได้ ผมในฐานะผู้ที่ต้องสรุป แต่ยังเหลือ รมว. ต้องถูกอภิปราย 2 คน อภิปรายไม่ครบก็สรุปไม่ได้ การลงคะแนนก็น่าจะไม่ชอบธรรม"
เรื่องนี้ต้องสรุปเป็นรายประเด็น
1.ฝ่ายค้านผิดพลาดจริง! ดังการยอมรับของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.เพื่อไทย ยอมรับว่า “ผิดพลาด” และบกพร่องในการบริหารเวลา ปล่อย ส.ส.ฝ่ายค้าน อภิปรายเกินโควตา จนทำให้ 4 ส.ส.อนาคตใหม่ ไม่เหลือเวลาอภิปราย
ที่สำคัญเป็นประเด็นสำคัญเสียด้วย เพราะเป็นการอภิปราย “2 ป.” ที่เหลือ ป.-ป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ ป.-ป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย
2.เป็นที่น่าเสียดายที่ 4 ส.ส.โควตา อดีตพรรคอนาคตใหม่ ไม่ได้ขึ้นโชว์ข้อมูล-โชว์ฝีปาก อย่าง รังสิมันต์ โรม ที่จั่วหัวว่าเตรียมสไลด์กว่า 70 หน้า กะมาถล่ม ป.-ป้อม สุดท้ายไม่ได้ขึ้นอภิปราย ซึ่งอาจมีหมัดเด็ดอย่าง วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ที่อภิปรายปฏิบัติการ IO เข้าเป้า จนในที่สุด 4 ส.ส. ตัดสินใจไปอภิปรายนอกสภาฯ
3.รัฐบาลได้ประโยชน์โดยไม่ต้องเปลืองแรง ข้อมูลที่เตรียมแจงให้กับ ป.-ป้อม และ ป.-ป๊อก ไม่จำเป็นต้องชี้แจงแล้ว
แม้ฝ่ายค้านพยายามใช้วาทกรรม “ปิดปาก” ไม่ยอมให้ฝ่ายค้านอภิปราย แต่เหมือนจะไม่ได้ผล เพราะสถานการณ์เป็นไปตาม ข้อ 1
คือ จัดการเวลาไม่ได้เอง
กลับมาที่สถานการณ์สภาฯ เมื่อโต้แย้งกันใช้เวลาไปกว่า 1 ชั่วโมง ประธานที่ประชุมฯ ให้นายกฯ อภิปรายปิด
ในที่สุด ฝ่ายค้านต้องควัก “ไพ่ตาย” Walk Out ไม่ร่วมสังฆกรรม เป็นไม้ตาย (สุดท้าย) เพราะนี่จะเป็นประเด็นเรื่อง “ความชอบธรรม” และใช้เป็นวาทกรรมชี้ว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ครบ-การลงมติไม่ชอบธรรม
ที่สุดก็เหลือแค่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล อยู่ในห้องประชุม กระทั่งมีมติ “จบการอภิปราย” วันสุดท้ายไปแบบงงๆ
นัดใหม่วันพรุ่งนี้ (28 ก.พ.2563) มาลงมติรายบุคคล ซึ่งเดาได้ไม่ยากว่าฝ่ายค้าน ออกแล้ว-ออกเลย ไม่กลับมาร่วมสังฆกรรมวันพรุ่งนี้
ดังนั้น เกมสภาฯ จังหวะต่อจากนี้ จึงไม่ใช่การเมือง “ในสภาฯ” แต่จะเป็นเกม “นอกสภาฯ”