เมื่อวานนี้ (24 ก.พ.2563) ทางการเมืองอู่ฮั่นของจีน ประกาศให้คำสั่งผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองและอนุญาตให้ประชาชนเดินทางออกจากเมืองเป็นโมฆะ เนื่องจากมาตรการดังกล่าวกระทำไปโดยพลการ ขณะที่ชาวกรุงปักกิ่งเริ่มกลับไปทำงานอีกครั้ง หลังจากนาย สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เรียกร้องให้ภาคธุรกิจกลับมาเปิดทำการตามปกติ แม้ว่าการแพร่ระบาดจะยังไม่คลี่คลาย
ส่วนมณฑลยูนนาน กวางตุ้ง ส่านซี และกุ้ยโจว ปรับลดระดับมาตรการรับมือ หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตในจีนเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าวันนี้คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 150 คน ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั่วประเทศอยู่ที่ 2,592 คน และมีผู้ติดเชื้ออีกกว่า 77,000 คนก็ตาม
จีนอัดฉีดงบฯ รับมือผลกระทบเศรษฐกิจ
ด้านผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจีน เปิดเผยว่า รัฐบาลอัดฉีดงบประมาณ 99,500 ล้านหยวน หรือประมาณ 400,000 ล้านบาท รับมือกับผลกระทบด้านเศรษฐกิจ
ผู้ติดเชื้อ COVID-19 เกาหลีใต้กว่า 800 คน
ส่วนสถานการณ์ในเกาหลีใต้วันนี้มีประชาชนหลายร้อยคนต่อแถวยาว เพื่อเข้าไปซื้อหน้ากากอนามัยที่ซูเปอร์มาร์เกตในเมืองแทกู หลังจากซูเปอร์มาร์เกตแห่งนี้จำหน่ายหน้ากากอนามัยครึ่งราคา ทั้งหมด 1,410,000 ชิ้น
ขณะที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีใต้ รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มขึ้นอีก 70 คนในช่วงบ่ายวันนี้ ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรวมทั้งประเทศสูงถึง 833 คน และมีผู้เสียชีวิตอีกอย่างน้อย 7 คน
ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขพ่นยาฆ่าเชื้อตามตลาดในกรุงโซล เพื่อควบคุมการระบาด หลังจากมูน แจ-อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ประกาศยกระดับการเตือนภัย COVID-19 ขั้นสูงสุด
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญ คาดว่าการระบาดของไวรัสอาจเกิดขึ้นทั่วประเทศ เนื่องจากในขณะนี้อาจมีผู้ติดเชื้อในกรุงโซลและอีกหลายพื้นที่เป็นจำนวนมากที่ยังไม่ผ่านการตรวจคัดกรอง
อิตาลีเผชิญการแพร่ระบาดหนักที่สุดในยุโรป
ส่วนสถานการณ์ในยุโรปล่าสุด พบยอดผู้เสียชีวิตในอิตาลีเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 4 คนแล้ว โดยผู้เสียชีวิตคนล่าสุดเป็นชายวัย 84 ปี ในแคว้นลอมบาร์ดีทางภาคเหนือของประเทศ นอกจากนี้ ยังมีผู้ติดเชื้ออีกไม่ต่ำกว่า 150 คน
จำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้นายกรัฐมนตรีอิตาลีต้องประกาศปิดเมืองในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดเป็นเวลา 2 สัปดาห์