ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ข่าวดี! สธ.เผยผู้ป่วย COVID-19 กลับบ้านได้อีก 2 คน

สังคม
21 ก.พ. 63
13:08
1,407
Logo Thai PBS
ข่าวดี! สธ.เผยผู้ป่วย COVID-19 กลับบ้านได้อีก 2 คน
กระทรวงสาธารณสุข เผยผู้ป่วยยืนยันกลับบ้านได้อีก 2 คน กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นำตัวอย่างเชื้อจากผู้ป่วยยืนยัน 2 คนแรกของไทย ไปพัฒนาชุดตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พัฒนาวัคซีนป้องกันโรค รวมทั้งแบ่งปันเชื้อให้องค์การอนามัยโลกนำไปต่อยอดเป็นประโยชน์ต่อคนทั้งโลก

วันนี้ (21 ก.พ.2563) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พร้อมด้วย นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และ นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 ว่า กระทรวงสาธารณสุข มีข่าวดี ผู้ป่วยยืนยันกลับบ้านได้เพิ่มอีก 2 คน ชายชาวจีน อายุ 56 ปี และอายุ 34 ปี จากสถาบันบำราศนราดูร เหลือนอนในโรงพยาบาล 16 คน รวมมีผู้ป่วยยืนยันรักษาหายกลับบ้านได้แล้ว 19 คน ในส่วนผู้ป่วยใช้เครื่องเอคโม (ECMO) หรือเครื่องช่วยพยุงการทำงานของปอด อาการคงที่ ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่พบเชื้อแล้ว

ส่วนรายที่เป็นวัณโรคร่วมด้วย ยังตรวจพบเชื้ออยู่ อาการคงที่ยังคงใช้เครื่องช่วยหายใจทั้ง 2 คน ต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง ขณะนี้ นักวิทยาศาสตร์ไทยจากหลายหน่วยงานได้ร่วมกันทำการทดลองทางห้องปฏิบัติการ ค้นพบว่าสารสกัดจากฟ้าทะลายโจรของประเทศไทย สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของไวรัสได้ในหลอดทดลอง ซึ่งจะได้นำมาพัฒนาต่อยอดกับเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หากได้ผลเป็นที่น่าพอใจก็จะทำการขยายผลต่อไป

 

ภาพ : กระทรวงสาธารณสุข

ภาพ : กระทรวงสาธารณสุข

ภาพ : กระทรวงสาธารณสุข

ไม่พบผู้ป่วย "Super Spreade" ในไทย

สำหรับกรณีผู้ป่วย Super Spreader ที่พบจากการรายงานข่าวในต่างประเทศนั้น จะเป็นผู้ที่มีเชื้อในร่างกายจำนวนมากสามารถแพร่ให้ผู้อื่นได้อย่างรวดเร็วจนไม่สามารถควบคุมได้ ลักษณะดังกล่าวนี้ ยังไม่เกิดขึ้นในประเทศไทย เนื่องจากไทยมีระบบเฝ้าระวังควบคุมโรคที่เข้มแข็ง ทำให้สามารถตรวจจับผู้อาการเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังและนำมาแยกเก็บตัวไว้ในห้องแยกได้อย่างรวดเร็ว จึงไม่ไปแพร่สู่ผู้อื่นได้

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมี พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 ที่ให้อำนาจเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ สามารถบังคับผู้ที่สงสัยว่าป่วยนำเข้ามาสู่ระบบการรักษาได้ ขอให้ประชาชนมั่นใจและให้ความร่วมมือกับทางราชการ เพื่อความปลอดภัยของคนในประเทศ ส่วนการติดตามผู้โดยสารและลูกเรือชาวไทยบนเรือสำราญไดมอนด์ ปริ้นเซส 3 คน ทั้งหมดตรวจไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และออกจากเรือเรียบร้อยแล้ว

ติดเชื้อสะสม 35 กลับบ้านแล้ว 19

สำหรับสถานการณ์ล่าสุด จนถึงวันที่ 21 ก.พ.2563 เวลา 08.00 น. ยังมีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรักษาในโรงพยาบาล 16 คน กลับบ้านแล้ว 19 คน รวมสะสม 35 คน และผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.-20 ก.พ.2563 มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 1,151 คน คัดกรองจากสนามบิน 58 คน มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 1,093 คน อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วและอยู่ระหว่างติดตามอาการ 941 คน ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 210 คน

สถานการณ์ทั่วโลกใน 28 ประเทศ และ 2 เขตบริหารพิเศษ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.-21 ก.พ.2563 เวลา 07.00 น. พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจำนวน 76,202 คน เสียชีวิต 2,247 คน ส่วนประเทศจีนพบผู้ป่วย 75,000 คน เสียชีวิต 2,236 คน

ไทยยังไม่มีนโยบายห้ามไปพื้นที่ระบาด

ภาพ : กระทรวงสาธารณสุข

ภาพ : กระทรวงสาธารณสุข

ภาพ : กระทรวงสาธารณสุข

ทั้งนี้ เน้นย้ำประเทศไทยยังไม่มีนโยบายห้ามการเดินทางไปยังพื้นที่ระบาดของโรค หากจำเป็นต้องไป ขอให้ระมัดระวัง ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำสะอาดกับสบู่ หรือเจลล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย เมื่อไปอยู่ในที่คนจำนวนมาก เมื่อกลับประเทศไทย ทุกคนจะผ่านการคัดกรองที่สนามบิน ในส่วนผู้ที่ไม่มีไข้ อาการไม่เข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรค สามารถกลับบ้านไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ

แต่ขอแนะนำให้เฝ้าระวังสังเกตอาการตนเอง หากป่วย มีไข้ไอ มีน้ำมูก ภายใน 14 วัน ให้รีบพบแพทย์ทันที พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง หากพบมีไข้ ไอ มีน้ำมูก หรือมีอาการเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรค จะถูกนำไปตรวจเพิ่มที่โรงพยาบาล

นำตัวอย่างเชื้อไปถอดรหัส-พัฒนาวัคซีน

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้นำตัวอย่างเชื้อจากผู้ป่วยไวรัสโคโรนา 2019 คนแรกและคนที่ 2 ของประเทศไทย ไปถอดรหัสพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นำมาพัฒนาชุดตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ด้วยเทคนิค Real time RT –PCR พัฒนาวัคซีนป้องกันโรค รวมทั้งแบ่งปันเชื้อให้องค์การอนามัยโลกนำไปต่อยอดเป็นประโยชน์ต่อคนทั้งโลก

นอกจากนี้ ยังได้เร่งรัดพัฒนาเครือข่ายห้องปฏิบัติการให้พร้อมรับมือสถานการณ์ระบาดฉุกเฉินใน 14 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเริ่มที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ทั้ง 13 แห่ง คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โรงพยาบาลรามาธิบดี และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงพยาบาลราชวิถี สถาบันบำราศนราดูร และโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ในขยายไปยังโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปทั่วประเทศ อย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่ง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.- 20 ก.พ.2563 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จากตัวอย่างสิ่งส่งตรวจ รวม 1,489 ตัวอย่าง

ศึกษาสารสกัดฟ้าทะลายโจร-สมุนไพรอื่น

ภาพ : กระทรวงสาธารณสุข

ภาพ : กระทรวงสาธารณสุข

ภาพ : กระทรวงสาธารณสุข

ด้าน นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกได้ร่วมมือกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และองค์การเภสัชกรรม โดยในวันที่ 25 ก.พ.2563 จะมีการลงนามความร่วมมือเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของสารสกัดฟ้าทะลายโจร รวมถึงสมุนไพรอื่น เพื่อดูกลไก ประสิทธิภาพของสมุนไพรไทยต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งเดิมได้มีการศึกษาเรื่องสารสกัดฟ้าทะลายโจรอยู่แล้วว่ามีฤทธิ์ในเชิง Antiviral broad spectrum เช่น ฤทธิ์การต้านไม่ให้ไวรัสเข้าเซลล์ การเพิ่มภูมิคุ้มกัน หรือการต้านการอักเสบ ทำให้มีการใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน

โดยในวันนี้กระทรวงสาธารณสุขจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้เรื่องโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้ความรู้ในการป้องกันโรค ยึดหลักกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยที่โรงเรียนวัดโพธิ์ ท่าเตียน และมหาวิทยาลัยขอนแก่น จ.ขอนแก่น พร้อมทั้งจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้ในการทำความสะอาดสถานที่ที่วัดโพธิ์ ท่าเตียน และโรงแรมริชมอนด์ จ.นนทบุรี

แนะวิธีป้องกันตนเองจาก COVID-19

สำหรับข้อแนะนำประจำวันในการป้องกันตนเองจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 คือขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำ และสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น และปฏิบัติตามคำแนะนำ "กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ" อย่างเคร่งครัด สวมหน้ากากอนามัยแบบผ้าที่สะอาดเมื่ออยู่ในสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก สำหรับผู้ป่วยและผู้ที่มีอาการ ไอ จาม ควรใช้หน้ากากอนามัยทางการแพทย์เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ สำหรับหน้ากากอนามัยประเภท N95 จะใช้ในเจ้าหน้าที่ที่ดูแลรักษาใกล้ชิดกับผู้ป่วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง