วันนี้ (14 ก.พ.2563) นายธวัชชัย ลัดกรูด ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบพื้นที่ป่าท้องที่ จ.ราชบุรี พร้อมด้วย นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า ร่วมแถลงผลการตรวจสอบที่ดินเขาสนฟาร์ม ของน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในพื้นที่ ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี หลังจากเข้าตรวจรังวัดพื้นที่ร่วมกับสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ซึ่งเคยแจ้งครอบครองพื้นที่ไว้จำนวน 655 ไร่
ขณะนี้ผลการตรวจรังวัดพบว่าพื้นที่เขาสนฟาร์ม บุกรุกเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี เนื้อที่ 655 ไร่ ซึ่งก่อนหน้านี้มีการตรวจยึดและแจ้งครอบครองที่ดินไปแล้ว รวม 46.1 ไร่ และรอบใหม่ที่เพิ่งตรวจยึดอีก 665 ไร่ รวมพื้นที่ทั้งหมด 706 ไร่
กรมป่าไม้ ไม่ได้ประวิงเวลา แต่ต้องมีการตรวจสอบใหม่ เพราะมีรายละเอียดข้อมูลต่างๆ ยืนยันว่าทำงานเต็มที่อย่างรวดเร็วแต่ต้องระมัดระวัง ถ้าจะส่งคดีต้องมีการรังวัด มีค่าพิกัดหลักฐานชัด
นายชีวะภาพ กล่าวว่า เดิมพื้นที่ต้องสงสัย 682 ไร่ของเขาสนฟาร์ม ซึ่งเคยดำเนินไว้แล้วรอบแรกจำนวน 46.1 ไร่ และถูกดำเนินคดีรอบแรก มีแค่ฟาร์มไก่แค่ 4-5 เล้า แต่ตอนนี้ได้ทำการตรวจยึดเพิ่มเติมในช่วงวันที่ 12-13 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้นำหมายศาลเข้าตรวจพื้นที่ พบมีสิ่งปลูกสร้างรวม 58 รายการ และยังมีบ้านพัก สระน้ำ และรายละเอียดอื่นๆ ที่ต้องบันทึกและจะส่งให้ทางบก.ปทส.วันนี้
แบ่ง 3 พื้นที่แจ้งความบก.ปทส.วันนี้
ทั้งนี้นายชีวะภาพ กล่าวว่า คณะทำงานได้ร่วมตรวจสอบรังวัดพื้นที่และบริเวณเขาสนฟาร์มทั้งหมด และนำข้อมูลมาดำเนินการจัดทำแผนที่ และเอกสารสำคัญเพื่อประกอบบันทึกร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนัก งานสอบสวน เพื่อความชัดเจนของการดำเนินคดีสรุปการดำเนินคดีทั้งหมดจำนวน 3 คดี ประกอบด้วย
คดีที่ 1 พื้นที่ตรวจยึด 387 ไร่ เป็นบริเวณฟาร์มไก่เขาสน มีการใช้ประโยชน์พื้นที่ทำฟาร์มไก่ชัดเจน พื้นที่อยู่ในเขตรั้วลวดหนามทั้งหมดชัดเจน มีโรงเรือน อาคารในบริเวณนี้ โดยคดีนี้จะร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ น.ส.ปารีณา ผู้จดทะเบียนเป็นเจ้าของฟาร์มไก่ตามข้อมูลจาก กรมปศุสัตว์ เป็นผู้ครอบครอง โดยนายชีวะภาพ จะเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ
ส่วนคดีที่ 2 เป็นพื้นที่ติดกันนอกรั้วใกล้เคียงต่อเนื่อง สภาพพื้นที่เป็นที่เลี้ยงสัตว์ และโรงเรือนเก่า มีความต่อเนื่องกับฟาร์มไก่เขาสน แต่ไม่มีประจักษ์พยาน และวัตถุพยานหลักฐานที่ชี้ชัดว่า เป็นของใคร เนื้อที่ 207 ไร่เศษ นายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา หน.ชุดพยัคฆ์ไพร จะเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ
คดีที่ 3 เป็นพื้นที่ติดต่อกัน สภาพเป็นแปลงปลูกป่ายูคาลิปตัส เนื้อที่ 70 ไร่ นายพัฒนะ ศิริมัย ผอ.ศูนย์ป่าไม้จังหวัดราชบุรี ผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานในพื้นที่
เนื้อที่ตรวจยึด 665 ไร่ ตามม.54 และ ม.72 ของ พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 และม.72 และม.14 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 นอกจากนี้ยังมีความผิดใน ม.31 ประมวลกฎหมายกฎหมายที่ดิน และม.9 พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535
โดยค่ำวันนี้ (14 ก.พ.) ทางกรมป่าไม้ จะเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ยึดถือครอบครองที่ดินต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ทั้งนี้มีการตรวจข้อมูล โดยมีผู้ใหญ่บ้านเป็นคนนำชี้ ซึ่งเป็นข้อมูลเดิม จำนวน 682 ไร่ ซึ่งข้อมูลใกล้เคียงกันแตกต่างจำนวนประมาณ 17 ไร่ แต่มั่นใจว่ามีการติดตามการทำงานจากหลายส่วนแทบจะตามทุกฝีก้าว
"ปารีณา" ลั่นสู้คดีถึงที่สุด เตรียมฟ้องกลับ
เมื่อวานนี้ (13 ก.พ.) น.ส.ปารีณา พร้อมด้วยนายทศพล เพ็งส้ม ทนายความที่พรรคพลังประชารัฐแต่งตั้งให้ดูแล แถลงข่าวภายหลังคณะกรรมการกฤษฎีกา ตีความออกว่าบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ โดยยังยืน ยันว่ายังไม่ถูกตัดสิน และจะขอสู้คดีถึงที่สุด
ยืนยันไม่ได้บุกรุกป่า และยังไม่ได้หาช่องทางการต่อสู้คดี เพราะยังไม่มีความชัดเจนว่า ส.ป.ก.และ กรมป่าไม้ จะดำเนินคดีในข้อหาใดบ้าง
นอกจากนี้ยังระบุว่า คณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นเพียงที่ปรึกษาด้านกฎหมายของรัฐบาล ยังไม่ใช่ศาลที่จะตัดสินชี้ถูกผิด อีกทั้งตัวเองไม่มีเส้นสาย หรือได้รับปกป้องจากรัฐบาล ที่ผ่านมาโดนกระทำมากกว่าชาวบ้านคนอื่นๆ ได้รับความเสียหายอย่างมาก เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องไม่ได้เลี้ยงไก่เหมือนเดิม ภายหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะออกมาปกป้องตนเองด้วยการฟ้องกลับต่อผู้ที่ออกมาโจมตีโดยปราศจากความจริง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เช็กบิล! "กรมป่าไม้" ดำเนินคดี "เขาสนฟาร์ม" รุกป่าเพิ่มกว่า 500 ไร่
ผลรังวัดรอบ 2 ฟาร์มไก่ “ปารีณา” รุกป่า 46.1 ไร่