วันนี้ (13 ก.พ.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค, นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ และนพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ แถลงความคืบหน้าสถานการณ์โรคไวรัสโคโรนา19 หรือ COVID-19 ว่า ในวันนี้ มีข่าวดีผู้ป่วยยืนยันโรคไวรัสโคโรนา19 เป็นนักท่องเที่ยวชายชาวจีน อายุ 61 ปี หายป่วยเตรียมกลับบ้าน 1 คน ส่วนผู้ป่วยยืนยันรายอื่นๆ อาการดีขึ้น มี 2 คน ที่มีอาการหนักมาตั้งแต่แรกรับมารักษาที่สถาบันบำราศนราดูร ขณะนี้แพทย์ยังคงดูแลอย่างใกล้ชิด
ติดเชื้อสะสม 33 กลับบ้าน 12
สำหรับสถานการณ์ล่าสุด จนถึงวันที่ 13 ก.พ.2563 เวลา 08.00 น. พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรักษาในโรงพยาบาล 21 คน กลับบ้านแล้ว 12 คน รวมสะสม 33 คน และผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.-12 ก.พ.2563 มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 823 คน คัดกรองจากสนามบิน 53 คน มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 770 คน อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วและอยู่ระหว่างติดตามอาการ 673 คน ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 150 คน
สถานการณ์ทั่วโลกใน 26 ประเทศ และ 2 เขตบริหารพิเศษ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.-13 ก.พ.2563 เวลา 07.00 น. พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจำนวน 60,062 คน เสียชีวิต 1,360 คน ส่วนประเทศจีนพบผู้ป่วย 59,539 คน เสียชีวิต 1,358 คน
เปิดตัวแบบคัดกรองออนไลน์
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมมือกับคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จัดทำแบบคัดกรองตนเองออนไลน์ สำหรับผู้สงสัยโรคไวรัสโคโรนา 19 เป็น 3 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย จีน อังกฤษ เพื่อคลายความวิตกกังวลประชาชน โดยประชาชนสามารถเข้าไปตอบคำถามเพียง 4 ข้อ เพื่อประเมินความเสี่ยงที่จะติดโรคและดูคำแนะนำการปฏิบัติตัว ได้ที่ http://sescimande.net/Self-Screening/
"อนุทิน" สั่งเฝ้าระวัง 3 ช่องทาง
สำหรับเรือเวสเตอร์ดัม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้เตรียมวางแผนรองรับ โดยประสานงานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำชับให้เจ้าหน้าที่ด่านทุกช่องทางเข้าออกทั้งบก เรือ อากาศ เตรียมการกรณีผู้โดยสารจากเรือดังกล่าวมา เดินทางมาเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศไทย รวมทั้งประสานข้อมูลวางแผนดูแลคนไทยที่อยู่บนเรือ
2 เรือสำราญแวะภูเก็ตตามปกติ
ส่วนกรณีเรือท่องเที่ยวที่แวะพักที่ จ.ภูเก็ต เช้าวันนี้ (13 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคจากกระทรวงสาธารณสุข ได้ขึ้นไปประเมินสุขอนามัยบนเรือ ตรวจสอบข้อมูลสุขภาพของผู้โดยสารและลูกเรือ ร่วมกับแพทย์ประจำเรือ ผลการตรวจไม่มีผู้มีอาการเข้าเกณฑ์การสอบสวนโรค (PUI) และก่อนลงมาจากเรือแพทย์ประจำเรือจะวัดไข้ซ้ำ และเมื่อลงจากเรือแล้วจะมีทีมแพทย์กระทรวงสาธารณสุขและกองทัพเรือวัดไข้ซ้ำอีกครั้ง เป็นไปตามมาตรฐานสากล ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะผู้โดยสารกลุ่มนี้ไม่ใช่ผู้ป่วย และเรือลำนี้มาแวะพักตามเส้นทางเดินเรือปกติ โดยมีการแจ้งการเข้าออกประเทศอย่างถูกต้อง
คนไทย 137 คน สบายดี-ไม่มีไข้
สำหรับคนไทยกลับบ้านที่ฐานทัพเรือสัตหีบ วันนี้ เป็นวันที่ 9 ของการเฝ้าระวังโรค ผู้ป่วยยืนยัน 1 คน ที่โรงพยาบาลชลบุรี อาการปกติ ไม่มีไข้ ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการยังพบเชื้อ อยู่ในห้องแยก ยังคงเฝ้าระวังติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง ส่วนคนไทยที่อาคารรับรองสัตหีบ 137 คน ทุกคนสบายดี ไม่มีไข้
คัดกรองแล้วกว่า 4.29 แสนคน
ขณะที่ผลการดำเนินงานที่ด่านควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 3-23 ม.ค.2563 ได้เฝ้าระวังคัดกรองผู้โดยสารเที่ยวบินตรงจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต และกระบี่ ตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค.2563 ขยายเพิ่มที่ท่าอากาศยานเชียงราย และตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค.-12 ก.พ.2563 คัดกรองเที่ยวบินจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิทั้งขาเข้าและขาออกจากประเทศจีน สะสมทั้งสิ้น 766 เที่ยวบิน รวมคัดกรองผู้เดินทางและลูกเรือสะสม 61,655 คน ทางกระทรวงสาธารณสุขได้จัดเจ้าหน้าที่หมุนเวียนไปสนับสนุนเจ้าหน้าที่ที่ด่าน เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนการคัดกรองพื้นที่ ณ ท่าเรือ 5 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, ท่าเรือแหลมฉบัง, ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน, ท่าเรือภูเก็ต และท่าเรือสมุย ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2563 มีผู้ได้รับการคัดกรองสะสมรวม 44,148 คน ขณะที่ด่านพรมแดนทางบก มีผู้ได้รับการคัดกรองสะสม 323,543 คน นักท่องเที่ยวทุกคนจะได้รับแจกคำแนะนำสุขภาพ (health beware card) จากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรค
แนะวิธีป้องกันตนจากโควิด-19
ข้อแนะนำประจำวันในการป้องกันตนเองจากโรคไวรัสโคโรนา 19 คือหมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำ และสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น และปฏิบัติตามคำแนะนำ "กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ" อย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข สถานการณ์จะดีขึ้นด้วยความร่วมมือจากประชาชน อย่าเชื่อข่าวลือจากทุกทาง "เช็คก่อนแชร์" งดแชร์ข้อมูลผู้ป่วยทางสื่อออนไลน์ และมาจากแหล่งข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ เพื่อไม่ให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแพร่หลาย เกิดความตระหนก และมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โปรดติดตามข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุข หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง