ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

พล.อ.อภิรัชต์ กร้าว "นาทีลั่นไก" เขาเป็นอาชญากร "ไม่ใช่ทหาร"

การเมือง
11 ก.พ. 63
10:13
11,648
Logo Thai PBS
พล.อ.อภิรัชต์ กร้าว "นาทีลั่นไก" เขาเป็นอาชญากร "ไม่ใช่ทหาร"
พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.แถลงขอโทษครอบครัวผู้สูญเสียเหตุกราดยิงโคราช เหตุกำลังพลปล้นปืน และอาวุธก่อเหตุยึดห้างเทอร์มินอล 21 ลั่น "นาทีลั่นไก เขาเป็นอาชญากร ไม่ใช่ทหาร" พร้อมรับคำตำหนิความหละหลวม และวางมาตรการไม่ให้ซ้ำรอย

วันนี้ (11 ก.พ.2563) พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ( ผบ.ทบ.) แถลงข่าวครั้งแรกกรณีกราดยิงที่ จ.นครราชสีมา โดยระบุว่า ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก ต้องขอโทษ และแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งจากเหตุการณ์นี้ ซึ่งผู้ก่อเหตุเป็นกำลังพลของกองทัพบก

ผมขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวประชาชน ตลอดจนข้าราชการที่ต้องเสียชีวิตจากการ ปฎิบัติหน้าที่ เสียใจกับประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

ทั้งนี้ พล.อ.อภิรัชต์ ได้ไล่เรียงลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่าเวลา 14.00 น. ผู้ก่อเหตุตัดสินใจก่อเหตุสังหารคู่กรณี และเครือญาติในบ้านพักส่วนตัว ซึ่งปืนที่นำเป็นอาวุธส่วนตัว 5 ชนิดนำไปก่อเหตุ มีการตรวจสอบว่าเป็นอาวุธส่วนตัวซื้อถูกต้อง และกู้เงินมาซื้อ หลังจากไปถึงบ้านคู่กรณีได้สังหารคู่กรณีและเครือญาติ

ต่อมาเวลา 15.00 น.ได้ใช้รถยนต์ส่วนตัวขับไปที่ป้อมยามกองพันที่ 22  และใช้อาวุธปืนที่พกไป ขู่บังคับเจ้าหน้าที่ยาม และให้ส่งมอบอาวุธปืน เอชเค 33 และกระสุน 40 นัดบรรจุในแมกกาซีน

วินาทีลั่นไก เขาเป็นอาชญากร "ไม่ใช่ทหาร"

เมื่อผู้ก่อเหตุขู่จึงมอบให้ ผู้ก่อเหตุขับรถต่อถึงคลังกระสุน ใช้ปืน เอชเค  33 กราดยิงใส่พลทหาร ที่เฝ้าอยู่จนเสียชีวิต แล้วใช้ปืนลูกซองยิงกุญแจและปล้นปืนเอชเค 33 ปืนกล M 60 และใช้ปืนยิงยามฝั่งตรงข้ามได้รับบาดเจ็บ และขับรถมิตซู ไปขโมยรถจี๊ปดัดแปลงไม่ใช่ฮัมวี่ แล้วขับชนประตูไปในคลังกระสุน เพื่อขโมยกระสุน 700 นัด และกราดยิงตามเหตุการณ์ที่ได้ทราบอยู่แล้ว

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวอีกว่า สาเหตุและมูลเหตุผู้ก่อเหตุ เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้บังคับบัญชาและเครือญาติ มีการซื้อขายที่ดินผิดสัญญากัน เรื่องผลตอบแทน ในรายละเอียดต้องไปหาข้อมูลต่อว่ามีใครเกี่ยวข้อง มีผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องอยู่บ้าง เมื่อผิดสัญญาทำให้เกิดแรงจูงใจก่อเหตุครั้งนี้

วินาทีลั่นไกสังหาร เขาเป็นอาชญากร ไม่ใช่ทหารอีกต่อไปแล้ว  

ผบ.ทบ. ยังกล่าวถึงมาตรการดูแลอาวุธปืนและกระสุนหน่วยที่มีตั้งปกติ หน่วยมีที่ตั้งแนวชายแดนหรือภัยคุกคาม เป็นพื้นที่อันตราย มาตรการแต่ละหน่วย เช่นติดซีซีทีวีหน้าคลัง เก็บรักษากระสุน ยอมรับว่ามาตรฐานไม่เหมือนกัน ขึ้นกับความใส่ใจบังคับบัญชา ซึ่งกองทัพบกเน้นย้ำทุกยุคสมัย เรื่องมาตรการนั้นถือเป็นมาตรการหลัก ถ้าวันนี้ไม่ดีต้องทำให้ดีขึ้น ให้มีคนรับผิดชอบในกองรักษาการ

แต่บางหน่วยอาจหย่อนยาน ก็ต้องลงโทษต่อไป ไม่ใช่วัวหายแล้วล้อมคอก แต่เพราะผู้ก่อเหตุรู้ภายในค่ายดี เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ในค่ายทหารอยู่แล้ว จึงรู้ว่าจะปล้นปืนอย่างไร

 

มอบหมายผบ.ตร.เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์

ผบ.ทบ.กล่าวอีกว่า การบริหารสถานการณ์ที่เกิดเหตุ ทันทีที่จบภารกิจที่ กทม. ได้รายงานให้นายกรัฐ มนตรีรับทราบ ท่านมอบหมาย พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ไปถึงที่เกิดเหตุเวลา 22.00 น. เราไปเพื่อตัดสิน และดูการบริหารสถานการณ์ให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และประเมินภัยคุก คาม เพราะตามข่าวสารสถานการณ์ตลอด จึงจำเป็นต้องประเมินสถานการณ์ควรดำเนินการอย่างไร

เมื่อไปถึงเข้าหารือกับพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ร่วมกันหารือและรายงานนายกรัฐมนตรีได้ทราบตามขั้นตอน หลังจากที่รายงานนายกรัฐมนตรี จึงดำเนินการ 3 ข้อ เรื่องแรก คือใช้อำนาจกฎหมายปกติให้ผบ.ตร. เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นไปตามกฎหมายปกติ การให้ใครคนใดคนหนึ่งเป็น ผบ.เหตุการณ์มีความสำคัญต่อการตัดสินใจ เมื่อท่านเป็น ผบ.เหตุการณ์ ท่านได้รับความไว้วางใจ เสรีในการปฏิบัติงาน มีเอกภาพในการบังคับบัญชา single command ผบ.ตร.มีอำนาจตัดสินใจ

นายกฯ มอบหมายว่า ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน เพราะเรายอมรับความสูญเสียมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว จึงขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานให้ความระมัดระวังปฏิบัติตามขั้นตอน เพื่อให้ประชาชนติดอยู่ในห้าง อยู่ในสภาพตัวประกันปลอดภัยที่สุด อย่างไรก็ตามให้ รมช.กลาโหม ช่วยประ เมินสถานการณ์ตลอดเวลา หากต้องใช้กำลังทหารเข้าร่วมปฏิบัติการ ได้สั่งกำลังฉก. 90 พลรพพิเศษ93 ส่วนหนึ่งเคลื่อนมาใกล้ค่ายสุรนารี แต่ไม่ได้เข้ามาในพื้นที่แต่ให้เข้ามาเป็นกองหนุน

ผู้ก่อเหตุแม้เป็นราชการ แต่อยู่ๆ ทหารจะเข้าไป คนเข้าใจก็เข้าใจ คนไม่เข้าใจ อธิบายอย่างไรก็ไม่เข้าใจ ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์ดูแล้ว ตำรวจดำเนินการได้ และผบ.ตร.ก็สั่งประเมินแล้วไม่ได้ร้องขอให้ทหารเป็นผู้ช่วย ไม่มีคำสั่งแต่งตั้ง ซึ่งไม่ใช่นั่งพิมพ์แต่พูดกันต่อหน้าสถานการณ์

ชื่นชมทุกหน่วย-พร้อมรับคำตำหนิ 

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวอีกว่า เพื่อไม่ให้สับสนแตกแยก ตัวเองและผบ.ตร. ร่วมกันทำงาน ตั้งแต่ผมเป็นชั้นผู้น้อย เขาเป็นชั้นผู้น้อย เราผ่านวิกฤตหลายๆ อย่างมาด้วยกัน เราทำงานให้เกียรติซึ่งกันและกัน เราเคารพการตัดสินใจซึ่งกันและกัน เพื่อให้ประโยชน์สูงสุดรักษาชีวิตประชาชนที่ติดภายในห้างและสภาพตัวประกัน

ปฏิบัติการณ์ครั้งนี้ต้องชมตำรวจทุกหน่วยงาน ที่เข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ แม้จะมีตำรวจหลายนายต้องเสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่ และได้รับบาดเจ็บ เช่นเดียวกับทหารยามรักษาการณ์

เมื่อเหตุการณ์ยุติเวลา 08.50 น. ได้รับรายงานว่าจบงานแล้ว มีการสำรวจความเสียหาย มีการดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่รวมมือกันฝ่าวิกฤตครั้งนี้ และได้บรรยายสรุปให้นายกรัฐมนตรีท่านได้สั่งการเจ้าหน้าที่รัฐ รัฐบาล ทหารตำรวจ ส่วนกองทัพบกนั้น นอกเหนือจากการที่จะเยียวยากรณีทหารปฏิบัติหน้าที่เสี่ยงชีวิต และทหารที่บาดเจ็บ เราเยียวยาเต็มที่ เกินกว่าที่เขาจะได้รับแน่นอน เพราะเขาได้ทำหน้าที่ของเขาแล้วอย่างสมบูรณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างที่ พล.อ.อภิรัชต์ ย้ำขอแสดงความเสียใจอีกครั้งต่อเหตุการณ์ครั้งนี้ มีเสียงสั่นเครือ และกลั่นน้ำตาไม่อยู่ โดยระบุว่ามีคำตำหนิกองทัพบก มีคนด่าว่ากองทัพบก ซึ่งเป็นองค์กรด้านความมั่นคงและมีความศักดิ์สิทธิ์ มีคนมากมายด่าทหาร

อยากจะให้ทราบว่าท่านอย่าด่ากองทัพบก ท่านอย่าด่าทหาร กองทัพบกเป็นองค์กรไม่มีความรู้สึก ทหารที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในประเทศไทยตามแนวชายแดน ปราบปรามยาเสพติด ทหารที่ยังต้องเสี่ยงชีวิตปกป้องอธิปไตยให้ได้

ทั้งนี้ ในองค์กรมีทั้งคนดี คนไม่ดีปะปนกันอยู่ ถ้าจะด่า ด่าผม ตำหนิผม ด่าตรงที่ พล.อ.อภิรัชต์ ถึงผมมีเวลาแค่ 7-8 เดือน จะไม่ย่อท้อปรับปรุงกองทัพบก พัฒนาบุคลากร เพิ่มมาตรฐานและมาตรการให้ดีขึ้น เรียกความเชื่อมั่นให้กลับมา จนกว่าผมจะมอบธงให้ ผบ.ทบ.ท่านต่อไป

 

รับทายาทเข้ารับราชการทหาร

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร  พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ไม่ได้คุยกับนักข่าว เขียนเป็นข้อ 1 ที่เตรียมคำตอบเอาไว้ เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ผู้ก่อเหตุกับคู่กรณี ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ปฏิบัติการทางทหาร เป็นเรื่องหมางใจ เป็นเรื่องก่ออาชญากรรม

ในการรับผิดชอบผู้ก่อเหตุ-คู่กรณี กองทัพบกรับผิดชอบตามมาตรฐาน การรับผิดชอบผู้เสียหายโดยเฉพาะอย่างยิ่งทหารที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ แม้เป็นพลทหาร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานเพลิงศพให้ กองทัพบกจะดูแลครอบครัวทหารที่เสียชีวิตอย่างดีที่สุด

จะดูแลพลทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุดและสมเกียรติ ส่วนการรับผิดชอบประชาชนที่เสียชีวิต มีชาวโคราชหลายคน เอาเบอร์โทรศัพท์มาจากไหน ส่งข้อความมาหาผมเยอะ ได้ให้กำลังใจ

สำหรับประชาชน ครอบครัวที่เสียชีวิต กองทัพบกยินดีที่จะรับทายาทเข้ารับราชการตามคุณวุฒิโดยไม่มีข้อแม้ หากทายาทยังเรียนหนังสือไม่จบ กองทัพจะรับผิดชอบดูแลด้านการศึกษา และดูแลอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ผมจะเกษียณไปถึงผู้ได้รับบาดเจ็บก็เช่นเดียวกัน ท่านสูญเสียโอกาสในการประกอบอาชีพ ถ้าท่านประสงค์อยากเข้ารับราชการกองทัพบกไม่มีข้อแม้ใดๆ ทั้งสิ้น

จ่อยกเลิกซื้ออาวุธปืน-โครงการ

นอกจากนี้ ผบ.ทบ.ยังกล่าวอีกว่า มีโครงการที่ทำในกองทัพบกอีกมาก บ้านสวัสดิการ การกู้เงิน การร่วมมือกับบางหน่วยกับพ่อค้า มีการวิ่งเต้น ซึ่งรู้เรื่องนี้ดี และภายในดือน ก.พ.-เม.ย.นี้ นายพล ยันพันเอกไม่มีงานทำแน่

ผมรู้ข้อมูลลึก ผมเติบโตมากับความที่มันไม่ถูก หลายๆ อย่างผมกราบเรียนนายกรัฐมนตรี พี่ครับผมต้องทำ

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวอีกว่า เลิกซื้อปืนสวัสดิการทุกชนิดในกองทัพบก ต่อไปนี้ใครซื้อปืนสวัสดิการ ผู้บังคับบัญชาชั้นนายพล เสธ.เท่านั้นที่จะเซ็น ไม่ใช่แค่ชั้นนายพันเซ็น เปิดโอกาสพ่อค้าซื้ออาวุธโดยง่าย ผู้ก่อเหตุมีปืน 5 กระบอก เป็นปืนจากโครงการสวัสดิการจากหน่วยงานอื่น

ทหารไม่จำเป็นต้องมีปืนส่วนตัว เรามีปืนหลวง มีการแจกจ่ายเบิกรับ แต่เดิมมีไม่รู้กี่โครงการ ทหารมีบ้านมีที่พักให้กำลังพลเพียงพอ ท่านรับราชการ 20-30 ปี ไม่ต้องจ่ายค่าบ้าน ค่าเช่าบ้าน

ผบ.ทบ.กล่าวอีกว่า การถูกหลอก การเชื่อคนง่าย การอยู่แบบไม่พอเพียง การฟุ้งเฟ้อ ผมไม่ได้ตำหนิ ผมยกตัวอย่างว่า ผู้ก่อเหตุมีปืน 5 กระบอก ซึ่งมีราคาแพง มีไว้เพื่ออะไร บอกแต่ต้น เรามีพื้นฐานครอบครัวไม่เหมือนกัน แต่เราอยู่ในที่เดียวกัน รวมอยู่ที่เดียวกัน

ดังนั้นโครงการต่างๆ ต้องปรับปรุงแก้ไข จะเอาจริงคนเอาเปรียบหลวง เอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน ขอเวลา ไม่ได้เพิ่งเริ่มทำ สิ่งที่สั่งหลายๆ อย่าง  ภายในวงรอบการย้ายเห็นดีแน่

ยืนยันไม่ลาอออก

เมื่อถามว่าจะลาออกไหม ผบ.ทบ.กล่าวว่า  ถึงแม้ว่าผู้ก่อเหตุจะเป็นกำลังพลกองทัพบก ผู้ก่อเหตุไปก่อเหตุที่ไม่ใช่ภารกิจของกองทัพบก เช่น มีข้าราชการทหารค้ายาเสพติด ค้าอาวุธสงคราม แล้วถูกตำรวจวิสามัญ ก็อยากจะถามเหมือนกันนะครับว่ามันสมควรที่จะใช้คำถามนี้กับผมหรือเปล่า

ผมมีความรับผิดชอบเพียงพอต่อภารกิจที่ผมสั่ง ทุกตำแหน่ง ทุกวิกฤตที่ผ่านมา ทุกวิกฤตที่ผ่านมาจนจะเกษียณ อะไรที่สั่งผมรับผิดชอบ แต่ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการกระทำที่เกิดจากเหตุส่วนตัว อาชญากรรม การผิดกฎหมาย

เมื่อถามว่าเป็นแรงกดดันให้อยู่ไม่ครบวาระหรือไม่  ถ้าวันนี้เราอยู่บนพื้นฐานแห่งความจริง ว่าข้อเท็จจริงคืออะไร แล้วผลกระทบที่เกิดขึ้นคืออะไร เราควรจะตอบสนองอย่างไรกับผลที่มันเกิดขึ้น คือคนถามแบบนี้ช่วยดูข้อเท็จจริง อย่ามุ่งแต่คำตอบหรือมุ่งแต่จะให้ผมตอบบางอย่างที่ผมตอบไปแล้วก็จะรู้สึกพึงพอใจ รู้สึกชนะ ผมบอกแล้วผมไม่ยอมแพ้ ผมรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้นเนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นทหาร

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ครม.-ขรก.ทำเนียบฯ ใส่เสื้อผ้าไทยสีดำไว้ทุกข์ผู้สูญเสียโคราช

"ในหลวง-พระราชินี" รับผู้เสียชีวิตเหตุการณ์โคราชไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง