วันนี้ (10 ก.พ.2563) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อแห่งชาติ ยืนยันว่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ไม่สามารถแพร่กระจายเชื้อในอากาศเพราะการไอหรือจาม ทำให้เกิดละอองฝอยขนาดใหญ่ในระยะ 1-2 เมตรเท่านั้น
ซึ่งการแพร่เชื้อทางอากาศ จะเกิดจากละอองฝอยขนาดเล็กมากๆของผู้ป่วยและพบเพียงไม่กี่โรค ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในโรงพยาบาลที่ทำหัตถการทางการแพทย์ให้กับผู้ป่วย ซึ่งบุคลากรต้องสวมชุดป้องกันพิเศษและสวมหน้ากากอนามัย N 95 เพื่อป้องกัน
นพ.ทวี กล่าวว่า ขณะนี้ได้นำเลือดของคนขับแท็กซี่ที่หายป่วยแล้วมาสกัดเอาน้ำเหลืองที่มีภูมิคุ้มกันหรือแอนติบอดี้ ในปริมาณเหมือนกับการบริจาค เลือดตามปกติ ฉีดให้กับผู้ป่วยติดเชื้อที่มีอาการรุนแรงจำนวน 2 คนเพื่อให้ร่างกายเกิดภูมิคุ้มกัน
แนวทางการรักษาโรคติดเชื้อที่ยังไม่มียารักษา จะมีวิธีการหนึ่งพบว่าผู้ที่หายแล้วจะมีภูมิคุ้มกัน ที่เป็นโปรตีนอยู่ในร่างกายหากหายแล้วช่วง 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือนนำเลือดมาสกัดน้ำเหลืองเลือดที่มีภูมิมาให้กับผู้ป่วยด้วยโรคนี้
โดยต้องรอผลใน 48 ชั่วโมง ซึ่งใช้หลักเกณฑ์เดียวกับรักษาโรคซาร์ส ที่ใครป่วยแล้วรอดตายก็ขอเลือดมาใช้รักษา รวมทั้งโรคอีโบลาที่มีแพทย์ชาวอเมริกันคนหนึ่งติดเชื้อ และได้รับเลือดจากเด็กชายชาวแอฟริกันที่หายป่วย จากโรคอีโบลา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ข่าวดี! "คนขับแท็กซี่" เปิดใจหายป่วย-ให้กำลังใจคนจีน
ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า หากประเมินสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ทั่วโลก พบว่าจำนวนประเทศที่พบผู้ป่วยคงที่ และผู้ป่วยรายใหม่นอกประเทศไม่เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับไทย ตัวเลขผู้ป่วยจีนลดลง ดังนั้นหากแหล่งโรคดีขึ้น ก็เชื่อว่าสถานการณ์ ในประเทศน่าจะดีขึ้น โดยวันพรุ่งนี้ แพทย์จะย้ายผู้ป่วยติดเชื้อชาวจีน ออกจากห้องแยกโรคของโรงพยาบาลราชวิถี หลังผลตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่พบเชื้อ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
สธ.ไม่ยืนยันเชื้อไวรัสโคโรนาแพร่ "ทางอากาศ" ได้
ทีมวิจัยเปิดขั้นตอนถอดรหัส "ไวรัสโคโรนา" สายพันธุ์ใหม่