วันนี้ (8 ก.พ.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงพาณิชย์เปิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยเป็นวันแรก เพื่อป้องกันไวรัสโคโรนา จำนวน 200,000 ชิ้น ในเวลา 09.00 น. แต่ประชาชนบางส่วนทยอยมารอซื้อหน้ากากอนามัยตั้งแต่เวลา 06.00 น.
ประชาชนที่มาซื้อหน้ากากอนามัยแสดงความไม่พอใจและส่งเสียงโห่ร้อง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งมาเปิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยในเวลา 10.00 น. ซึ่งล่าช้ากว่า 1 ชั่วโมง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าประชาชนต่างกังวลว่าหากไม่ซื้อหน้ากากอนามัยอาจจะขาดแคลนจึงกักตุน รวมถึงมีการนำออกนอกประเทศด้วย จึงกำหนดให้หน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ เป็นสินค้าควบคุมตามกฎหมาย ทำให้สต๊อก การกระจายสินค้า การนำเข้า การส่งออก ต้องรายงานมาที่เลขานุการคณะกรรมการว่าด้วยสินค้าและบริการ ซึ่งขณะนี้ยืนยันว่ายังไม่มีการอนุญาตให้ส่งออก
หน้ากากอนามัยที่นำมาจำหน่ายในราคาที่สมควรคือ 2.50 บาท คำนึงถึงต้นทุนการผลิตและค่าขนส่ง กระทรวงได้ตรวจสอบปริมาณและคุณภาพ วันนี้จำหน่าย 200,000 ชิ้น แต่หากประเมินถึงความจำเป็น อธิบดีกรมการค้าภายในก็จะตัดสินใจร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง
ขณะที่ในวันจันทร์ที่ 10 ก.พ. กระทรวงพาณิชย์จะกระจายหน้ากากอนามัยทั่วประเทศ จำนวน 500,000 ชิ้น เพื่อจำหน่ายในร้านธงฟ้า 820 ร้านทั่วประเทศ โดยจำหน่วยในราคา 2.50 บาท ต่อ 1 ชิ้น โดยให้ผู้ผลิตกระจายสินค้าผ่านช่องทางจำหน่ายทั่วประเทศให้ทั่วถึง และกำหนดให้ส่งเพิ่มไปยังประชาชนที่ต้องการ เช่น ที่ทำเนียบรัฐบาลจะจำหน่าย 15 วัน ในจำนวน 300,000 ชิ้น
ส่วนการที่องค์การเภสัชจำหน่ายในราคา 1 บาท ต้องไปถามว่าต้นทุนขององค์การเภสัชกรรมราคาเท่าไหร่ ซึ่งยังไม่ทราบต้นทุนการผลิต เพราะองค์การเภชัสกรรมเป็นผู้ผลิตหน้ากากอนามัยเหมือนกัน
ขณะที่การขายหน้ากากอนามัยเกินราคาในออนไลน์นั้น ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการในเรื่องนี้แล้ว ซึ่งอธิบดีกรมการค้าภายในจะเป็นผู้ชี้แจงให้สื่อได้รับทราบ
สำหรับการกระทำความผิด ขณะนี้มีการจับกุมดำเนินคดีแล้ว 11 ราย หากประชาชนพบว่า มีการจำหน่ายเกินราคา ประชาชนสามารถแจ้งได้สายด่วน 1569 ตลอด 24 ชั่วโมง