วันนี้ (7 ก.พ.2563) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยถึงจำนวนบุคคลสัญชาติจีนที่ยังอยู่ภายในประเทศไทย ซึ่งจากสถิติตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2563 - 6 ก.พ.2563 พบว่ามีบุคคลสัญชาติจีนเข้ามาในไทยทั้งหมด 1,004,067 คน ออกประเทศไปแล้ว 889,567 คน และยังอยู่ในไทย 114,491 คน เฉพาะคนที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่นเข้ามาในประเทศ 23,933 คน ออกไปแล้ว 21,895 คน และยังอยู่ในไทย 2,038 คน ส่วนเมืองกว่างโจว ซึ่งเป็นเมืองใกล้เคียงกับเมืองอู่ฮั่น เข้ามาในไทย 103,944 คน ออกไปแล้ว 91,688 คน และยังอยู่ในไทย 12,256 คน
ขณะที่บุคคลที่เดินทางมาจากเมืองอื่นๆ ของประเทศจีนเข้ามาในไทย 876,190 คน ออกไปแล้ว 775,993 คน เหลืออยู่ 100,197 คน นอกจากนั้นสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยังได้ตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่นเพื่อคัดกรองผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ทางท่าอากาศยานจำนวน 1,231 คน และทางด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศรวม 807 คน
พล.ต.ท.สมพงษ์ ยังกล่าวว่า สำหรับชาวจีนในเมืองที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่เป็นเป้าหมายหลักในการตรวจสอบอย่างเข้มงวดคือเมืองอู่ฮั่น และกว่างโจว และบุคคลที่ยังอยู่ในไทยทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในแต่ละจังหวัดร่วมกันสาธารณสุขจังหวัดได้ออกสุ่มตรวจชาวจีนในพื้นที่ต่างๆ ไปกว่า 2,000 คนแล้ว ขณะนี้พบชาวจีนต้องสงสัย 1 คน และรอผลการตรวจว่าจะติดเชื้อหรือไม่
สำหรับชาวจีนที่ยังอยู่ในไทยส่วนใหญ่เป็นคนที่อยู่มาก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือเป็นบุคคลที่มาขอพักอาศัยในช่วงบั้นปลายชีวิต หรือมีครอบครัวอยู่ในไทย ส่วนชาวจีนที่จะมาทำเรื่องขออยู่ต่อในไทยเนื่องจากไม่สามารถเดินทางเข้าออกประเทศจีน ทางสำนักงานสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้จัดทีมแพทย์ และเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกายเพื่อคัดกรอง หากพบมีอาการไข้ขึ้นสูงก็จะแยกให้แพทย์ดูแลอาการและคัดกรองโรคต่อไป
ส่วนกรณีที่คนขับรถแท็กซี่ติดเชื้อไวรัสโรโรนาจากผู้โดยสารชาวจีนและรักษาตัวหายไปแล้วก่อนหน้านี้ จากการตรวจสอบพบว่าชาวจีนคนดังกล่าวเดินทางออกนอกประเทศไทยไปแล้ว อย่างไรก็ตามสำหรับอุปกรณ์การตรวจสอบบุคคลเข้าออกประเทศของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยเฉพาะเครื่องตรวจลายนิ้วมือระบบไอโอเมทริกซ์ได้สั่งการให้ทำความสะอาดทุก 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ในทุกด่านตรวจคนเข้าเมือง