วันนี้ (31 ม.ค.2563) องค์การอนามัยโลก แนะนำอะไรกับจีน ประเทศต่างๆ และประชาคมโลกบ้าง หลังประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ พร้อมให้คำแนะนำ 3 ส่วนสำคัญ
1. คำแนะนำสำหรับประเทศจีน
- บังคับใช้กลยุทธ์การสื่อสารความเสี่ยงเป็นประจำ เพื่อสื่อสารกับประชาชนถึงพัฒนาการของการระบาด และมาตรการป้องกันต่าง ๆ
- ยกระดับมาตรการสาธารณสุขเพื่อควบคุมการระบาด และปกป้องสุขภาพของผู้ทำงานด้านสาธารณสุขด้วย
- ให้ความร่วมมือกับ WHO และเครือข่ายพันธมิตรในการสอบสวนเพื่อทำความเข้าใจโรคระบาดนี้ และแบ่งปันข้อมูลให้องค์การอนามัยโลก (WHO)
- เดินหน้าสอบสวนหาต้นตอของเชื้อไวรัสที่มาจากสัตว์ต่อไป
- ให้มีการตรวจเช็คผู้โดยสารก่อนออกจากสนามบินและท่าเรือโดยให้มีผลกระทบต่อการสัญจรระหว่างประเทศน้อยที่สุด
2. คำแนะนำสำหรับประเทศต่างๆ
- ทุกประเทศต้องเตรียมพร้อมในการควบคุมโรคระบาด ทั้งการใช้มาตรการเฝ้าระวังเชิงรุก การตรวจหาโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น การแยกผู้ป่วย การติดตามที่มาของโรค เป็นต้น
- ทุกประเทศต้องแบ่งปันข้อมูลให้ WHO ตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ
- การตรวจพบเชื้อ 2019-nCoV ในสัตว์ ต้องมีการแจ้งไปยังองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ ในฐานะโรคอุบัติใหม่
- แต่ละประเทศควรเน้นไปที่การลดการติดเชื้อในมนุษย์ / ป้องกันการเกิด secondary transmission และการแพร่กระจายไปยังชาติอื่น
- จากข้อมูลที่มีอยู่ตอนนี้ คณะกรรมาธิการยังไม่แนะนำให้จำกัดการเดินทางหรือจำกัดการค้า
- หากประเทศใดมีมาตรการเรื่องการเดินทาง ต้องแจ้งให้ WHO ทราบตามกฎหมายอนามัยระหว่างประเทศ และให้ระมัดระวังการออกมาตรการที่เข้าข่าย “การเลือกปฏิบัติ” หรือทำให้เกิดการตราหน้าที่ทำให้เกิด “ความอัปยศ”
3. คำแนะนำสำหรับประชาคมโลก
- ประชาคมโลกควรแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีและร่วมมือกัน ช่วยกันหาต้นตอของไวรัส ศักยภาพในการแพร่จากคนสู่คน การเตรียมความพร้อมกรณีเชื้อเข้าสู่ประเทศ และการวิจัยพัฒนาวิธีการรักษา
- สนับสนุนช่วยเหลือประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลางในการรับมือ รวมถึงการเข้าถึงการวินิจฉัยโรค วัคซีน และการบำบัดโรค
- ภายใต้กฎอนามัยระหว่างประเทศ ประเทศใดที่ใช้มาตรการที่ส่งผลกระทบต่อการสัญจรระหว่างประเทศ เช่นการปฏิเสธไม่ให้ชาวต่างชาติ รวมถึงสินค้าเข้าประเทศ เกินกว่า 24 ชั่วโมง “ต้อง” ส่งรายงานแจ้ง WHO ถึงเหตุผลและความจำเป็นที่ออกมาตรการนี้ภายใน 48 ชั่วโมงหลังเริ่มบังคับใช้ โดย WHO จะพิจารณาเหตุผลเหล่านั้นและอาจขอให้ประเทศดังกล่าวทบทวนการตัดสินใจ
- คณะกรรมาธิการฉุกเฉินชื่นชมภาวะการเป็นผู้นำและการดำเนินการทางการเมืองของรัฐบาลจีน ความโปร่งใส และความพยายามในการสอบสวนและควบคุมไวรัส ซึ่งจีนสามารถหาสายพันธุ์ไวรัสได้อย่างรวดเร็วและให้ข้อมูลกับประเทศต่างๆ เพื่อตรวจหาผู้ติดเชื้อ
- จีนใช้มาตรการที่เข้มงวด และประสานงานกับ WHO ทุกวัน รวมทั้งประสานงานกับประเทศต่างๆ ซึ่งมาตรการที่จีนทำ ไม่ได้เป็นผลดีเฉพาะจีนเอง แต่ยังเป็นผลดีต่อทั่วโลกด้วย
- คณะกรรมาธิการย้ำว่า การประกาศภาวะฉุกเฉินนี้ ขอให้มองว่าเป็นการช่วยสนับสนุนและชื่นชมประเทศจีน ชาวจีน และการดำเนินการของจีนที่เป็นแนวหน้าของการรับมือ และต้องอาศัยความสามัคคีระดับโลก
- คณะกรรมาธิการยังได้ออกคำแนะนำต่อหลายภาคส่วน ซึ่ง WHO เห็นชอบให้ประกาศเป็น Temporary Recommendations under the IHR หรือคำแนะนำชั่วคราวภายใต้กฎอนามัยระหว่างประเทศ ตามนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
WHO ประกาศภาวะฉุกเฉิน กรณีการระบาดของไวรัสโคโรนา
วันเดียว จีนติดเชื้อ "ไวรัสโคโรนา" ตายเพิ่ม 43 ยอดรวม 213 คน
"จีน" เตรียมรับตัวชาวหูเป่ยที่อยู่ในต่างประเทศกลับ