วันนี้ (27 ม.ค.2563) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย กรณีไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ขณะนี้กำลังแพร่ระบาดในหลายประเทศ โดยระบุว่า การคัดกรองและเฝ้าระวังขณะนี้เป็นไปอย่างเข้มข้น ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ยกระดับศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข เป็นระดับ 3 เพื่อให้สอดคล้องกับความรุนแรงของสถานการณ์ พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์โรคทั้งในและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ยังมีการตรวจคัดกรองช่องทางเข้าออกประเทศทั้ง 5 สนามบิน และช่องทางอื่นๆ ทั้งทางบก ชายแดน และทางเรือ คัดกรองผู้เดินทางที่มาจากพื้นที่เสี่ยงอย่างเมืองอู่ฮั่น กว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง และเมืองที่มีการระบาดตามประกาศของทางการจีน อีกทั้งยังมีความพร้อมในการรักษา ส่งต่อ และจัดตั้งพื้นที่ควบคุมเมื่อมีความจำเป็น
พล.อ.ประยุทธ์ ยังระบุว่า ได้เน้นย้ำให้กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงสถานการณ์ตามข้อเท็จจริง ไม่ปิดบังข้อมูลใดๆ และให้ยึดหลักการ "ชีวิตและสุขภาพของประชาชนสำคัญที่สุด" พร้อมขอให้ประชาชนมั่นใจการดำเนินการของรัฐบาล เพราะอยู่ในระดับมาตรฐานสากล ซึ่งสถานการณ์โดยรวมถือว่าควบคุมได้ 100% แต่ต้องไม่ประมาท โดยต้องดูแลตัวเองและช่วยกันเฝ้าระวัง อย่างไรก็ตามรัฐบาลยืนยันถึงความพร้อมของระบบการแพทย์และสาธารณสุขที่มีมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคซึ่งติดอันดับ 6 จาก 195 ประเทศ จากการจัดอันดับโดยมหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์
สำหรับการอพยพชาวไทยในพื้นที่เสี่ยงและเมืองต่างๆ ในประเทศจีน ขณะนี้กระทรวงกลาโหมพร้อมปฏิบัติการทันที หากได้รับการอนุญาตจากประเทศจีน แต่สิ่งที่น่ากังวลคือข่าวปลอม รวมทั้งข่าวที่มีความคลาดเคลื่อน ซึ่งรัฐบาลได้วางแนวทางรับมือโดยกำหนดช่องทางสื่อสารหลัก เพื่อให้เกิดเอกภาพและน่าเชื่อถือได้ที่สุด ประชาชนสามารถสอบถามได้โดยตรงที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด จึงขอความร่วมมือประชาชนทุกคนและสื่อโซเชี่ยลในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทุกครั้งก่อนการแชร์ หรือเผยแพร่ออกไป เพราะอาจสร้างความสับสนและตื่นตระหนกได้
นายกฯ ชี้รัฐบาลเข้มงวดแก้ฝุ่น PM2.5
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงปัญหาฝุ่น PM2.5 ว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้ประกาศให้การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองเป็นวาระแห่งชาติ ออกมาตรการและแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนฯ เพื่อเร่งแก้ไขปัญหา โดยเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ การป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง หรือแหล่งกำเนิด และการเพิ่มประสิทธิภาพระบบ เครื่องมือ และกลไกการบริหารจัดการทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทั้งหมดถูกกำหนดอยู่ในแผนปฏิบัติการระยะสั้นและระยะยาว
นอกจากนี้ยังมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ใช้ระบบบริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จ หรือ Single Command ให้บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและเข้มงวด กำกับดูแลควบคุมแหล่งกำเนิดฝุ่นละออง ทั้งจากยานพาหนะ โรงงานอุตสาหกรรม และการเผาในที่โล่ง โดยให้รายงานผลการดำเนินงานในการแก้ไขปัญหาไปยังกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง เพื่อรายงานให้รัฐบาลทราบ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า รัฐบาลได้ยกระดับให้ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี (PMOC) ติดตามและประเมินสถานการณ์ รวมทั้งการสั่งการต่างๆ ทั้งในเรื่องของไวรัสโคโรนา และฝุ่นละออง PM 2.5 อย่างเป็นเอกภาพ โดยจะกำกับดูแลด้วยตนเองอย่างใกล้ชิด พร้อมขอบคุณประชาชนที่สนับสนุนและให้ความร่วมมือในการป้องกันแก้ไขทุกปัญหาของประเทศมาโดยตลอด